การวิเคราะห์ข้อมูล (What-if Analysis)
ในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึงการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ What-if ซึ่งเป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ที่อยู่ใน Excel การวิเคราะห์ข้อมูลแบบ What-if เป็นการเอาสูตรหรือข้อมูลที่มีมาวิเคราะห์เพื่อหาทางเลือกจากสถานการณ์ต่างๆ โดยมีการวิเคราะห์ 3 แบบ คือ สถานการณ์สมมติ(Scenario), ตารางข้อมูล(Data Table) และการค้นหาค่าเป้าหมาย(Goal Seek) สถานการณ์สมมติและตารางข้อมูลจะรับชุดของค่าข้อมูลเข้า(Input) และประเมินล่วงหน้า เพื่อหาผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ ส่วนการค้นหาค่าเป้าหมายต่างจากสถานการณ์สมมติและตารางข้อมูลตรงที่ นำผลลัพธ์มาประเมินย้อนกลับ เพื่อหาค่าข้อมูลเข้าที่เป็นไปได้ที่ทำให้เกิดผลลัพธ์นั้นๆ 1. การค้นหาค่าเป้าหมาย(Goal Seek) ปกติเวลาคำนวณเราจะคำนวณตามลำดับ เช่น ยอดขาย–ค่าใช้จ่าย = กำไร แต่ Goad Seek ใช้การระบุผลลัพธ์ที่ต้องการ(Output) แล้วคำนวณค่าข้อมูลเข้า(Input) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ ตัวอย่าง1 การคำนวณเงินกู้ ปกติจะคำนวณจากเงินต้น ระยะเวลาที่กู้ และดอกเบี้ย และใส่สูตรด้วยฟังก์ชัน PMT (ดูภาพที่ 1) ซึ่งจะได้จำนวนเงินที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน (ดูภาพที่ 2) ภาพที่ 1 คำนวณอัตราผ่อนชำระต่องวด ภาพที่ 2 จำนวนเงินที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เงื่อนไขที่ 1 : ถ้ามีต้องการผ่อนต่อเดือน 10,000 บาท ในระยะเวลา 10 ปี สามารถใช้ Goal Seek คำนวณให้ได้ว่า จะสามารถกู้เงินได้เท่าไหร่? ไปที่ Data > What-if Analysis > Goal Seek (ดูภาพที่ 3) ภาพที่ 3 เลือกคำสั่ง Goal Seek ในหน้าต่าง Goal Seek (ดูภาพที่ 4) : Set cell – cell ที่จะใช้ตั้งค่า โดยคลิกเลือก cell ที่เขียนสูตรเอาไว้ (ในตัวอย่างนี้คือ B5) To value – ระบุค่าเป้าหมายที่ต้องการ (ต้องการผ่อนเดือนละ 10,000) By changing cell – ระบุ cell ที่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงค่าตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ (จำนวนเงินที่กู้ได้) ภาพที่ 4 กำหนดค่าเป้าหมาย สรุป ถ้าต้องการผ่อนเดือนละ 10,000 เป็นระยะเวลา 10 ปี จะต้องกู้เงินจำนวน 949,363 บาท (ดูภาพที่ 5) ภาพที่ 5 คำตอบที่ได้ของเงื่อนไขที่ 1 เงื่อนไขที่ 2 : ถ้าต้องการกู้เงิน 1,000,000 บาท และผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่? (ดูภาพที่ 6) ภาพที่ 6 กำหนดค่าเป้าหมาย สรุป ถ้าต้องการกู้เงิน 1,000,000 บาท และผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท จะต้องใช้เวลาประมาณ 129 เดือน (ดูภาพที่ 7) ภาพที่ 7 ระยะเวลาผ่อนชำระ(เดือน) 2. สถานการณ์สมมติ(Scenario) ตัวอย่าง2 เปิดร้านขายเบเกอรี่มีเค้กขายอยู่ 12 ชนิด ในการวิเคราะห์กำไรจากการขาย (ดูภาพที่ 8) อาจแบ่งยอดขายได้หลายกรณี เช่น กรณีขายดี(Best Case), กรณีขายไม่ค่อยดี(Worst Case) และกรณีที่น่าจะเป็น(Most Likely) เป็นต้น