แก้ปัญหา ubuntu server 14.04 เปลี่ยน eth0 เป็น em1

เรื่องมีอยู่ว่า ผมและวิศิษฐ ช่วยกันทำต้นฉบับ PSU12-Sritrang ใหม่เมื่อมี ubuntu 14.04 ออกมาแล้ว เดิมใช้ ubuntu 12.04 มาโดยตลอด ปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่ ubuntu เปลี่ยนเวอร์ชั่นเป็น 13.04 แล้ว คือ เมื่อ clone ไปแล้ว บูต server แล้วจะไม่เห็น eth0 เมื่อตรวจสอบด้วยคำสั่ง dmesg | grep eth0 ก็พบว่าบรรทัดที่มีข้อความว่า renamed eth0 to em1 วิศิษฐ ค้นเจอว่า หากต้องการบังคับให้ใช้แบบเก่า คือ ใช้ eth0 จะต้องแก้ไขไฟล์ /etc/default/grub ทำดังนี้ หากใช้ editor vi คล่อง ก็ใช้คำสั่งนี้ sudo vi /etc/default/grub หากไม่คล่อง ก็ใช้ดังนี้ sudo nano /etc/default/grub ในไฟล์ /etc/default/grub ให้หาบรรทัด GRUB_CMDLINE_LINUX_DEFAULT=”” แก้ไขเป็น GRUB_CMDLINE_LINUX_DEFAULT=”net.ifnames=1 biosdevname=0″ จากนั้นให้สั่งคำสั่งนี้ด้วย sudo update-grub เท่าที่ทดสอบผลกับเครื่องที่มีปัญหา สามารถบังคับให้ใช้ eth0 ได้ครับ ยังไม่พบว่าวิธีการนี้จะใช้ไม่ได้เมื่อมีการ update versions ของ ubuntu ยังคงต้องตรวจสอบในเวอร์ชั่นต่อไป   อัปเดตข้อมูล (17 มี.ค. 2559) ใน ubuntu 16.04 server ผมกลับพบว่า คำสั่งนี้ใช้ไม่ได้ GRUB_CMDLINE_LINUX_DEFAULT=”net.ifnames=1 biosdevname=0″ แต่คำสั่งข้างล่างนี้ใช้ได้ GRUB_CMDLINE_LINUX_DEFAULT=”net.ifnames=0″ ทำให้ใช้ eth0 ได้ ซึ่งการกำหนดค่า net.ifnames=0 นี้นำมาจากเอกสารที่อ้างอิง [1] ข้างล่างนี้ ผมเลือกใช้ option ที่ 3   และมีคำอธิบายในเรื่องความเปลี่ยนแปลงในการใช้ชื่อ network interface name ใน [2]   Reference: [1] http://www.freedesktop.org/wiki/Software/systemd/PredictableNetworkInterfaceNames/ [2] https://lists.ubuntu.com/archives/ubuntu-devel/2015-May/038761.html  

Read More »

การติดตั้ง Lighttpd + PHP5 บนเครื่อง Ubuntu 14.04 LTS

มาเริ่มขั้นตอนการติดตั้งกันเลยครับ วิธีการติดตั้ง Lighttpd Web Server 1. ทำการติดตั้ง Lighttpd ผ่าน apt-get ดังนี้ครับ # sudo apt-get install -y lighttpd 2. ให้ทำการ Restart Lighttpd ด้วยคำสั่ง # sudo service lighttpd restart 3. ทำการทดสอบเข้าใช้งาน HTTP โดยพิมพ์คำสั่ง http://หมายเลขไอพีของเซิร์ฟเวอร์ เช่น http://192.168.99.1 4. ในกรณีที่ต้องการติดตั้ง SSL ให้พิมพ์คำสั่งเพื่อเปิด site ดังนี้ sudo lighttpd-enable-mod ssl 5. หลังจากนั้นทำการ สร้าง key จาก default cer (ถ้ามี key จริงสามารถนำมาแทนได้ในภายหลัง) ในกรณีที่ไม่เคยติดตั้ง apache ให้ติดตั้งโปรแกรม ssl-cert ก่อนดังนี้ sudo apt-get install -y ssl-cert ทำการรวม Key โดยสร้างเป็นไฟล์ใหม่ เก็บไว้ที่ /etc/lighttpd/snakeoil.pem sudo sh -c ‘cat /etc/ssl/certs/ssl-cert-snakeoil.pem /etc/ssl/private/ssl-cert-snakeoil.key > /etc/lighttpd/snakeoil.pem’ 6. จากนั้นทำการเข้าไปแก้ไฟล์ระบุ เพื่อระบุตำแหน่ง cer ให้ถูกต้อง sudo nano /etc/lighttpd/conf-enabled/10-ssl.conf 7. ทำการแก้ไขข้อความในไฟล์ดังนี้ ssl.pemfile = “/etc/lighttpd/snakeoil.pem” 8. จากนั้นให้สั่ง Restart Lighttpd  ตามปกติ # sudo service lighttpd restart 9. ทำการทดสอบเข้าใช้งาน HTTPS โดยพิมพ์คำสั่ง https://หมายเลขไอพีของเซิร์ฟเวอร์ เช่น https://192.168.99.1 *หมายเหตุ วิธีการดู IP ให้พิมพ์ดังนี้ ifconfig ให้วิธีการดูให้สังเกตุตามรูปตัวอย่าง – eth0 เป็น ip จาก nat interface – eth1 เป็น ip จาก bridge interface – lo เป็น ip จาก loopback interface วิธีการเปลี่ยน Lighttpd Server Default Port *ยกตัวอย่างการเปลี่ยนจาก port 80->8081 – เปิดไฟล์ /etc/lighttpd/lighttpd.conf sudo nano /etc/lighttpd/lighttpd.conf – แก้ไขข้อความในไฟล์ดังนี้ (วิธีการ save ให้กด Ctrl-X แล้วกด y แล้ว enter) server.port = 8081 วิธีการติดตั้ง PHP5 เพื่อใช้งานกับ Lighttpd Web Server 1. ทำการติดตั้ง PHP5 ดังนี้ sudo apt-get install php5-cgi 2. ทำการเปิดใช้งาน module เพื่อให้สามารถใช้งาน php บน lighttpd ได้ sudo lighty-enable-mod fastcgi sudo lighty-enable-mod fastcgi-php 3. จากนั้นให้สั่ง Restart Lighttpd  ตามปกติ # sudo service lighttpd restart 4. วิธีการสร้างไฟล์ตรวจสอบสามารถทำได้ดังนี้ – เปิดไฟล์ /var/www/info.php sudo sh -c

Read More »

การติดตั้ง Apache2 + PHP5 บนเครื่อง Ubuntu 14.04 LTS

มาเริ่มขั้นตอนการติดตั้งกันเลยครับ วิธีการติดตั้ง Apache2 Web Server 1. ทำการติดตั้ง Apache ผ่าน apt-get ดังนี้ครับ # sudo apt-get install -y apache2 2. ให้ทำการ Restart Apache ด้วยคำสั่ง # sudo service apache2 restart จะเห็นได้ว่าจะมี Warning เกี่ยวกับ Domain Name ไม่ต้องตกใจครับ สามารถใช้งานได้ แต่เพราะยังไม่ได้จด Domain ให้กับ IP เครื่องที่ติดตั้ง ทุกครั้งที่ Restart ก็จะมีการฟ้องจนกว่าจะจดครับ ถ้าไม่ต้องการให้ขึ้น Warning ดังกล่าว ให้ทำการแก้ไขไฟล์ /etc/apache2/apache2.conf ดังนี้ – เปิดไฟล์ /etc/apache2/apache2.conf sudo nano /etc/apache2/apache2.conf – เพิ่มข้อความท้ายไฟล์ดังนี้ (วิธีการ save ให้กด Ctrl-X แล้วกด y แล้ว enter) ServerName localhost 3. จากนั้นทำการ Restart Apache อีกครั้งจะไม่พบข้อความ Warning อีกแล้ว # sudo service apache2 restart 4. ทำการทดสอบเข้าใช้งาน HTTP โดยพิมพ์คำสั่ง http://หมายเลขไอพีของเซิร์ฟเวอร์ เช่น http://192.168.99.1 5. ในกรณีที่ต้องการติดตั้ง SSL ให้พิมพ์คำสั่งเพื่อเปิด site ดังนี้ sudo a2enmod ssl sudo a2ensite default-ssl 6. จากนั้นให้สั่ง Restart Apache ตามปกติ # sudo service apache2 restart 7. ทำการทดสอบเข้าใช้งาน HTTPS โดยพิมพ์คำสั่ง https://หมายเลขไอพีของเซิร์ฟเวอร์ เช่น https://192.168.99.1 8. ในกรณีที่ต้องการยกเลิกการติดตั้ง SSL ให้พิมพ์คำสั่งเพื่อปิด site ดังนี้ sudo a2dismod ssl sudo a2dissite default-ssl 9. จากนั้นให้สั่ง Restart Apache ตามปกติ # sudo service apache2 restart *หมายเหตุ วิธีการดู IP ให้พิมพ์ดังนี้ ifconfig ให้วิธีการดูให้สังเกตุตามรูปตัวอย่าง – eth0 เป็น ip จาก nat interface – eth1 เป็น ip จาก bridge interface – lo เป็น ip จาก loopback interface วิธีการเปลี่ยน Apache Server Default Port *ยกตัวอย่างการเปลี่ยนจาก port 80->8080 1. เปิดไฟล์ /etc/apache2/sites-enabled/000-default.conf sudo nano /etc/apache2/sites-enabled/000-default.conf 2. แก้ไขข้อความในไฟล์ดังนี้ (วิธีการ save ให้กด Ctrl-X แล้วกด y แล้ว enter) <VirtualHost *:8080> 3. เปิดไฟล์ /etc/apache2/ports.conf sudo nano /etc/apache2/ports.conf 2. แก้ไขข้อความในไฟล์ดังนี้ (วิธีการ save ให้กด Ctrl-X แล้วกด y แล้ว enter) Listen 8080 3. จากนั้นให้สั่ง

Read More »

การตั้งค่า PSU Email สำหรับ Android device

การตั้งค่า PSU Email สำหรับ Android device โดยใช้ app Email (ที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่อง) บางท่านอาจจะเจอปัญหาว่า เช็คเมลล์เข้าได้ แต่ไม่สามารถส่งเมลล์ออกได้ ลองทำตามขั้นตอนนี้ดูนะครับ ^^ 1. ไปที่ไอคอน Email บน android 2. ใส่ email address และ password 3. กดปุ่ม Next 4. รอการตรวจเช็คสักครู่ 5. เลือก IMAP account 6. ในส่วนของ Incoming server settings ให้ใส่ IMAP server ให้เป็น mail.psu.ac.th Port : 143 จากนั้น กดปุ่ม Next 7. ในส่วนของ Outgoing server settings ให้ใส่ ให้ใส่ SMTP server ให้เป็น smtp2.psu.ac.th Security type : TLS Port : 587 จากนั้น กดปุ่ม Next 8. กำหนดค่า Account options หากไม่ต้องการปรับแก้ ก็ให้กดปุ่ม Next ได้เลย 9. ทำการระบุ account a name และ display name หรือหากไม่ต้องการปรับเปลี่ยน ก็ให้กดปุ่ม Done เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการตั้งค่า   *** การตั้งค่าบน android นี้ จะเหมือนกับการตั้งค่าที่ Outlook Express เพียงแต่ว่าจะต่างกันตรงที่ จะต้องกำหนดค่า Security type  เป็น TLS refer : วิธีตั้งค่า PSU Email สำหรับ Outlook Express

Read More »

วิธีแก้ไขปัญหาเครื่อง Laptop ไม่สามารถปรับควบคุมแสงสว่าง Brightness Control ใน Ubuntu 14.04

วิธีแก้ไขปัญหาเครื่อง Laptop ไม่สามารถปรับควบคุมแสงสว่าง Brightness Control ใน Ubuntu 14.04 ปัญหานี้เกิดกับ Laptop ที่มีการ์ดแสดงผลของยี่ห้อ [Intel Graphics] ซึ่งจะไม่สามารถปรับควบคุมความเข้มความสว่างของจอภาพเพื่อปรับลด/เพิ่ม แสงได้ตามปกติ – ให้ลองใช้คำสั่งตรวจสอบ video/graphic card ของท่านดูก่อนว่าเป็นผลิตภัณฑ์ยี่ห้อใด ls /sys/class/back light/ ถ้าปรากฎว่าแฟ้มข้อมูลที่แสดงออกมามีแฟ้มชื่อ intel_backlight อาจจะเกิดปัญหากับการปรับลด/เพิ่ม แสงของหน้าจอ ให้แก้ไขดังนี้ touch /usr/share/X11/xorg.conf.d/20-intel.conf sudo vi /usr/share/X11/xorg.conf.d/20-intel.conf จากนั้นพิมพ์ข้อมูลดังนี้ Section “Device” Identifier “card0” Driver “intel” Option “Backlight” “intel_backlight” BusID “PCI:0:2:0” EndSection หลังจากพิมพ์ข้อความเสร็จให้ทำการบันทึกแฟ้มดังกล่าว จากนั้นให้ลองล็อกเอาท์ logout หรือทำการ restart เครื่องใหม่ และลองใช้ฟังค์ชั่นคียร์ปรับลด/เพิ่ม แสงของจอภาพ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย… ^_^

Read More »