รู้จักฟังก์ชัน Excel ตอนที่ 2 เรื่อง ตระกูลท่าน Count (COUNTIF, COUNTIFS)

พบกันอีกครั้งนะคะ กับ Excel ตอน ตระกูลท่าน Count ตอนที่ 2 ค่ะ สำหรับตอนที่ 2 นี้จะเป็นการแนะนำการใช้ Function COUNTIF และ COUNTIFS มาเริ่มกันเลยค่ะ COUNTIF เป็น Function ที่ใช้สำหรับนับข้อมูลตามเงื่อนไขที่เราต้องการ 1 เงื่อนไข เช่น ต้องการนับจำนวนคนที่ได้เกรด A : เงื่อนไขคือ “คนที่ได้เกรด A” ต้องการนับจำนวนคนที่ได้คะแนนมากกว่า 75 : เงื่อนไขคือ “คะแนนมากกว่า 75” รูปแบบ Function คือ COUNTIF(range, criteria) range คือ ช่วงข้อมูลที่ต้องการนับจำนวน criteria คือ เงื่อนไขที่ต้องการ ตัวอย่าง จากตัวอย่าง สิ่งที่ต้องการคือ หาจำนวนคนที่ได้เกรด A ดังนั้น range คือ ช่วง D3 ถึง D7 criteria คือ “A” ดังนั้นสิ่งที่จะได้เมื่อเขียน Function คือ =COUNTIF(D3:D7,”A”) ผลลัพธ์ที่ได้คือ 2 ดังภาพ   COUNTIFS เป็น Function ที่ใช้สำหรับนับข้อมูลตามเงื่อนไขที่เราต้องการโดยเงื่อนไขนั้นมีมากกว่า 1 เงื่อนไข เช่น ต้องการนับจำนวนคนที่ได้เกรด A และเป็นเพศหญิง : เงื่อนไขคือ “คนที่ได้เกรด A” และ “เพศหญิง” ต้องการนับจำนวนเด็กเข้าอบรมได้คะแนนมากกว่า 60 แต่น้อยกว่า 79 : เงื่อนไขคือ “คะแนนมากกว่า 60 แต่น้อยกว่า 79” รูปแบบ Function คือ COUNTIF(range_criteria1, criteria1, [range_criteria2, criteria2],…) range_criteria1 คือ ช่วงข้อมูลที่ต้องการนับจำนวนของเงื่อนไขที่ 1 ค่านี้จำเป็นต้องระบุ criteria1 คือ เงื่อนไขที่ต้องการ เงื่อนไขแรก ค่านี้จำเป็นต้องระบุ range_criteria2 คือ ช่วงข้อมูลที่ต้องการนับจำนวนของเงื่อนไขที่ 2 ค่านี้ไม่จำเป็นต้องระบุ criteria2 คือ เงื่อนไขที่ต้องการ เงื่อนไขที่สอง ค่านี้ไม่จำเป็นต้องระบุ สามารถระบุเงื่อนไขที่ต้องการได้เรื่อย ๆ ตัวอย่าง จากตัวอย่าง สิ่งที่ต้องการคือ หาจำนวนคนที่ได้เกรด A และได้คะแนนมากกว่า 90 ดังนั้น เงื่อนไขแรก range_criteria1 คือ ช่วง D3 ถึง D7 criteria1 คือ “A” เงื่อนไขที่สอง range_criteria2 คือ ช่วง E3 ถึง E7 criteria2 คือ “>=90” ดังนั้นสิ่งที่จะได้เมื่อเขียน Function คือ =COUNTIFS(D3:D7,”A”,E3:E7,”>=90″) ผลลัพธ์ที่ได้คือ 1 ดังภาพ สำหรับเรื่องราวของตระกูลท่าน Count ก็จบลงในตอนที่ 2 แต่เพียงเท่านี้ หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ 

Read More »

รู้จักฟังก์ชัน Excel ตอนที่ 1 เรื่อง ตระกูลท่าน Count

หลาย ๆ ท่านคงใช้ Excel อยู่ในชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อย อาจจะชินตากับ Function Count กันอยู่บ่อย ๆ แต่ Function นี้ ไม่ได้มาเดี่ยว ๆ นะคะ ยังมีญาติ ๆ ในตระกูลอีกเพียบเลย มาดูกันค่ะว่า มีอะไรบ้าง และแต่ละ Function นั้นทำงานกันอย่างไรค่ะ COUNT COUNTA COUNTBLANK COUNTIF COUNTIFS Function ตระกูล Count หลัก ๆ ที่ผู้เขียนใช้งานจะมี 5 Function ข้างต้นนะคะ สำหรับในตอนที่ 1 นี้ ผู้เขียนจะนำเสนอ 3 ฟังก์ชันแรกก่อนก็คือ COUNT, COUNTA และ COUNTBLANK ค่ะ ส่วนอีก 2 Function สามารถติดตามต่อได้ในตอนที่ 2 นะคะ   COUNT  สำหรับฟังก์ชันนี้ จะใช้สำหรับนับจำนวนเฉพาะตัวเลข โดยไม่นับตัวอักษรและช่องว่าง ที่อยู่ในช่วงที่เรากำหนด(range) หรือเลือกทีละค่า(value) ตามที่เราต้องการ รูปแบบ Function แบบ value คือ COUNT(value1, [value2],…) value1 คือ ค่าข้อมูลแรกที่ต้องการนับจำนวน ในที่นี้คือใส่ทีละค่า ค่านี้จำเป็นต้องระบุ value2 คือ ค่าข้อมูลที่สอง ที่ต้องการนับจำนวน ไม่จำเป็นต้องมี สามารถเลือกค่าได้เรื่อย ๆ ตัวอย่าง ภาพที่ 1 การเลือกทีละค่าเพื่อนับจำนวนโดยใช้ Function Count   รูปแบบ Function แบบ range คือ COUNT(value1, [value2],…) value1 คือ ค่าข้อมูลแรกที่ต้องการนับจำนวนในที่นี้คือใส่เป็นช่วง การระบุคือ จุดเริ่มต้น:จุดสิ้นสุด ค่านี้จำเป็นต้องระบุ value2 คือ ค่าข้อมูลที่สอง ที่ต้องการนับจำนวน ไม่จำเป็นต้องระบุ สามารถเลือกค่าได้เรื่อย ๆ ตัวอย่าง ภาพที่ 2 การเลือกค่าเป็นช่วงเพื่อนับจำนวนโดยใช้ Function Count ผลลัพธ์ที่ได้ หมายเหตุ เนื่องจาก จากภาพที่ 1 และ 2 มีการเลือกค่าเท่ากับการเลือกแบบช่วงดังนั้นค่าที่ได้จะเท่ากันค่ะ จากผลลัพธ์ที่ได้ จะเห็นได้ว่า Function Count จะนับเฉพาะตัวเลขเท่านั้น ส่วนตัวอักษรหรือช่องว่าง จะไม่ถูกนับค่ะ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ข้อมูลคำนำหน้า เกรดและคะแนน จะนับได้แค่ 0 เนื่องจากมีช่องว่างข้อมูลและข้อมูลใน Column นั้นเป็นตัวอักษรค่ะ COUNTA สำหรับฟังก์ชันนี้ จะใช้สำหรับนับจำนวนข้อมูลทั้งหมดทั้งตัวอักษรและตัวเลข แต่ไม่นับช่องว่าง ที่อยู่ในช่วงที่เรากำหนด(range) หรือเลือกทีละค่า(value) ตามที่เราต้องการดังภาพค่ะ รูปแบบ Function แบบ value คือ COUNTA(value1, [value2],…) value1 คือ ค่าข้อมูลแรกที่ต้องการนับจำนวน จะระบุทีละค่าหรือระบุเป็นช่วงก็ได้ แต่ค่านี้จำเป็นต้องระบุ value2 คือ ค่าข้อมูลที่สอง ที่ต้องการนับจำนวน ไม่จำเป็นต้องมี สามารถเลือกค่าได้เรื่อย ๆ ตัวอย่าง จากผลลัพธ์ที่ได้ จะเห็นได้ว่า Function CountA จะนับข้อมูลทั้งหมด ยกเว้นช่องว่าง จะไม่ถูกนับค่ะ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ข้อมูลเกรดและคะแนน จะนับได้แค่ 4 เนื่องจากมีช่องว่างข้อมูลละช่อง COUNTBLANK สำหรับฟังก์ชันนี้ จะใช้สำหรับนับจำนวนเฉพาะช่องว่าง ที่อยู่ในช่วงที่เรากำหนด(range) รูปแบบ Function แบบ value คือ COUNTBLANK(range) range คือ ช่วงของข้อมูลที่ต้องการ ตัวอย่าง จากผลลัพธ์ที่ได้ จะเห็นได้ว่า Function CountBlank จะนับเฉพาะข้อมูลที่เป็นช่องว่างค่ะ ซึ่งจะเห็นว่าข้อมูลในที่นี้มีช่องเกรดและช่องคะแนน ที่มีช่องว่าง Column ละช่อง   สำหรับในตอนที่ 1 ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ สามารถติดตาม

Read More »

ภาพสวยประกอบบน office ด้วย Pickit

ในการนำเสนองานต่างๆ สิ่งที่ช่วยให้การนำเสนอดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น คือ รูปภาพและรูปแบบการจัดวาง ซึ่งใน office จะมี Add-in ที่ชื่อว่า Pickit ซึ่งเป็นเป็นเครื่องมือที่ช่วยการค้นหาภาพตามที่เราต้องการนำมาใช้ในงานนำเสนอของเราได้ มาดูขั้นตอนการใช้งานกันเลยค่ะ  1.เริ่มต้นเราต้องทำการติดตั้ง Add-in ซึ่งสามารถติดตั้งได้ใน Microsoft office (Word, excel, power point) ในที่นี้จะนำเสนอในส่วนของ power point ไปยังแท็บ INSERT > Store   2.เป็นหน้าจอ Apps for Office ในช่องค้นหา พิมพ์คำว่า “Pickit” เมื่อเจอรายการ “Picket Free Images” ให้กดปุ่ม Add 3.เมื่อติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อย โปรแกรมจะปรากฎอยู่ด้านขวาของหน้าจอ 4.หากโปรแกรมไม่ขึ้นมาสามารถเรียกใช้โปรแกรมได้ที่ INSERT> My Apps > Pickit Free Images 5.จากนั้นพิมพ์ชื่อภาพที่ต้องการหรือเลือกภาพตามหมวดหมู่ต้องการได้ ในตัวอย่างนี้ข้อยกตัวอย่าง คำว่า “network” ระบบก็จะแสดงรายการภาพ 6.จากนั้นเลือกภาพที่ต้องการ ก็กดปุ่ม Insert เพื่อดึงภาพมาใช้ในงานของเรา   เพียงเท่านี้เราก็ได้ภาพสำหรับตกแต่งให้งานนำเสนอของเรา น่าสนใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ภาพดังกล่าว ยังเป็น “ภาพฟรี” อีกด้วย

Read More »

ไวรัส shortcut

เหตุที่ตั้งชื่อบทความว่า ไวรัส shortcut ไม่ได้หมายความว่าไวรัสประเภทนี้ชื่อ shortcut แต่เป็นอาการทีเกิดขึ้นเมื่อไวรัสตัวนี้ทำงาน โดยสาเหตุและลักษณะอาการที่พบคือ เมื่อเรานำ flash drive หรืออุปกรณ์จำพวก removable drive (เช่น external hardisk) ไปใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง ไฟล์ที่อยู่ใน flash drive หรือ removable drive จะหายไป และจะมีไฟล์ shortcut เกิดขึ้นแทนที่ โดย shortcut มักจะถูกตั้งชื่อเหมือนกับไฟล์ข้อมูลเดิมที่มีอยู่ ซึ่งหากเราเผลอเปิดไฟล์ shortcut ดังกล่าว ก็จะเป็นการไปเรียกไฟล์ไวรัสให้ทำงานนั่นเอง ส่วนไฟล์ข้อมูลเดิมนั้นไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่เมื่อแรกเริ่มที่ติดไวรัสมานั้น ไฟล์เหล่านี้จะถูกซ่อนไว้ไม่ให้เห็นนั่นเอง   ตัวอย่างไฟล์ shortcut ที่ไวรัสสร้างขึ้น ข้อสังเกตุคือจะมีไอคอนเป็นแบบ shortcut (ไอคอนรูปลูกศร)   แนวทางการแก้ไข (ในบทความนี้จะยกตัวอย่างบน Windows 8.1) อันดับแรกสิ่งที่ต้องเตรียมคือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ติดไวรัส เพื่อใช้สำหรับกำจัดไวรัสและกู้ข้อมูลที่อยู่ใน flash drive หรือ removable drive โดยคอมพิวเตอร์ควรมีความพร้อมดังต่อไปนี้ – ติดตั้งโปรแกรม antivirus ที่อัพเดตฐานข้อมูลไวรัสล่าสุด กรณี Windows 8.1 จะมี antivirus มาพร้อมอยู่แล้วคือ Windows Defender ซึ่งควรอัพเดตฐานข้อมูลไวรัสให้ล่าสุดก่อน – ปิด Autorun หรือ AutoPlay เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟล์ใน  flash drive หรือ  removable drive ที่ติดไวรัส ถูกเปิดอ่านเมื่อมีการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้ไวรัสแพร่กระจายต่อไปได้ เชื่อมต่อ flash drive หรือ removable drive ที่ติดไวรัสเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้นทำการแสกนไวรัสด้วยโปแกรม antivirus ที่เตรียมไว้  และทำตามคำแนะนำของโปรแกรม antivirus  เพื่อกำจัดไฟล์ไวรัสและไฟล์ shortcut ที่ถูกไวรัสสร้างขึ้นมา   ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้แล้ว อาจจะพบว่า drive จะกลายเป็นพื้นที่ว่าง ๆ แต่หากดู properties ของ drive แล้วจะพบว่ามีเนื้อที่ส่วนหนึ่งถูกใช้ในการเก็บข้อมูล ซึ่งที่จริงแล้วก็คือไฟล์ข้อมูลที่ถูกไวรัสซ่อนไปนั่นเอง ตัวอย่าง falsh drive ที่ติดไวรัส หลังจากกำจัดไวรัสออกไปแล้ว จะเห็นเป็น drive ว่าง ๆ แต่เมื่อดู properties จะเห็นว่ามีเนื้อที่ส่วนหนึ่งที่มีการใช้เก็บข้อมูลอยู่   ส่วนของขั้นตอนการกู้ไฟล์ที่หายไปนั้น ก็คือการทำให้คอมพิวเตอร์ของเราเห็นไฟล์ที่ซ่อนไว้นั่นเอง ซึ่งโดยปกตินั้น เราสามารถตั้งค่าการแสดงไฟล์ได้ในหน้าต่าง File Explorer โดยก่อนเข้าไปตั้งค่านี้ ให้เราเข้าไปที่ drive ที่ต้องการกู้ข้อมูลก่อน เพื่อจะได้เห็นผลจากการตั้งค่าได้เลย  จากนั้นเลือกเมนู View ที่อยู่ด้านบน แล้วเลือกเลือกเมนู Options แล้วเลือกคำสั่ง Change folder and search options เสร็จแล้วจะปรากฏหน้าต่างสำหรับตั้งค่า ต่อมาคือให้ไปที่แท็บ View จากนั้นให้ลองเลือกตัวเลือก ดังนี้ เลือก Show hidden files, folders, and drives จากนั้นกดปุ่ม Apply หากไฟล์ที่ถูกซ่อนยังไม่ปรากฏ ให้เลือกตัวเลือก Hide protected operating system files (Recommended) แล้วกดปุ่ม Apply ซึ่งเมื่อถึงขั้นตอนนี้แล้ว ไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้ก็น่าจะปรากฏขึ้นมาแล้ว จะสังเกตเห็นว่าไฟล์ข้อมูลที่หายไปจะปรากฏขึ้นมา แต่ไอคอนจะเป็นสีจาง ๆ เนื่องจากถูกตั้งค่าให้เป็น Hidden โดยไวรัส และเมื่อดู properties ของไฟล์ จะพบว่าไม่สามารถเปลี่ยนค่าจาก Hidden เป็นปกติได้ เนื่องจากตัวเลือก Hidden ถูก disable อยู่ วิธีการแก้ไขเพื่อเอาค่า Hidden ออกทำได้ดังนี้คือ อันดับแรก ให้กลับไปตัั้งค่าการแสดงผลไฟล์และโฟลเดอร์ให้เป็นเหมือนเดิมก่อน (ติ๊กเครื่องหมายถูกตัวเลือก Hide protected operating system files (Recommended) แล้วกดปุ่ม

Read More »

สั่งให้ Excel พูดด้วยเครื่องมือ Speak Cells

สำหรับ blog ในวันนี้ ทางผู้เขียนขอแนะนำเทคนิคการใช้งานเครื่องมือใน Quick Access Toolbar (QAT) ที่จะสามารถทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้น โดยการเลือกเครื่องมือที่มีการใช้งานบ่อยๆ มาไว้ในที่ที่เข้าถึงง่าย   แล้ว Quick Access Toolbar คืออะไร ? อธิบายแบบง่ายๆ เลยนะ มันคือ แถบคำสั่งที่อยู่มุมบนด้านซ้ายของตัวโปแกรมชุด Office ไม่ว่าจะเป็น Excel, Word หรือ PowerPoint เพื่อให้เราสามารถเรียกใช้งานคำสั่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ที่เราเห็นอยู่บ่อยๆ คือพวกปุ่ม Save, Undo, Redo นั่นแหละ   แล้วถ้าหากเราต้องการ Add คำสั่งอื่นๆ เพิ่มเข้ามาละ จะต้องทำยังไง ? วิธีการเพิ่มคำสั่งใน Quick Access Toolbar วิธีที่หนึ่ง สามารถ Add ได้จากปุ่มที่เห็นอยู่แล้ว ดูตัวอย่างได้ตามรูปด้านล่าง คลิกขวาบนคำสั่งที่ต้องการ จากนั้นเลือก Add to Quick Access Toolbar วิธีที่สอง คลิก Add More Command (วิธีนี้สามารถเลือกคำสั่งแบบแปลกๆ ที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นเข้ามาได้ด้วย) ดูตัวอย่างได้ตามรูปด้านล่าง คลิกเลือกสัญลักษณ์ สามเหลี่ยม ดังรูป เลือก “More Commands…” Choose commands from ให้เลือกแสดงเป็นแบบ All Commands หากอยากเห็นทั้งหมด หรือจะเลือกแบบ Commands Not in the ribbon ก็ได้นะ เดี๋ยวมันจะกรองให้ ตัวอย่างดังรูป จากนั้นเราจะเห็นเมนูทั้งหมด สามารถเลือกคำสั่งที่ต้องการและ คลิกปุ่ม “Add” จากนั้นคลิกปุ่ม “OK” เพื่อยืนยันการเพิ่มคำสั่งดังกล่าว สำหรับคำสั่งที่เราจะเลือกแนะนำใน Blog นี้คือ คำสั่ง “Speak Cells” เมื่อเรา Add Commands เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะเห็นสัญลักษณ์คำสั่งดังกล่าวเพิ่มเข้ามาในส่วนของ Quick Access Toolbar ซึ่งประโยชน์ของเจ้าคำสั่งนี้เนี่ย คือการที่โปรแกรมจะช่วยทวนสิ่งที่เราพิมพ์เข้าไป เพื่อลดความผิดพลาด โดยไม่ต้องมานั่งเสียเวลาอ่านทวนซ้ำในสิ่งที่เราพิมพ์เข้าไปนั่นเอง (แต่ต้องเป็นภาษาอังกฤษนะ) ทางผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ เหล่านี้น่าจะมีประโยชน์สำหรับใครหลายๆ คน (รวมถึงตัวผู้เขียนด้วย) ซึ่งนอกเหนือจาก Commands ดังกล่าวนั้น Excel ก็ยังมีเครื่องมือเจ๋งๆ ที่เราสามารถ Add เข้ามายัง Quick Access Toolbar เพิ่มเติมได้อีกเยอะแยะมากมาย ผู้อ่านสามารถทดลองคลิกๆ เลือกๆ เพิ่มเข้ามาได้เลย ไม่ต้องกลัวโปรแกรมจะเจ๊งงงงนะ ไม่ลองเล่นก็จะไม่รู้น่ะแจ๊ะ แฮ่ ^____^   ขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง https://www.sara2u.com/tips-trick.html http://www.inwexcel.com/

Read More »