bit.ly สั้น ๆ สวย ๆ ง่ายนิดเดียว

ต่อจาก bitly สายย่อ ซึ่งสะดวกมากแล้ว มีอีกขั้นตอนนึง ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อน ถ้าใช้ bitly สร้าง Short URL นั้นเราจะได้ URL แบบสุ่ม อย่างนี้ http://bit.ly/2N3Tut7 ซึ่ง จะเป็น Case Sensitive ซึ่งต้องพิมพ์ตัวพิมพ์ใหญ่/เล็ก ให้ถูกต้อง และบางทีอาจจะสับสนระหว่าง l (L – lower case) กับ เลข 1 หรือ I (I capital letter) ได้ ถ้าอยากกำหนด สิ่งที่ตามมาข้างหลัง bit.ly/ ได้ เช่น http://bit.ly/psu-gafe สามารถทำต่อจากขั้นตอน bitly สายย่อ ใน Step 7 อีกนิดเดียวคือ ตรง Customize ด้านล่าง ใส่คำได้ตามใจชอบ แต่ต้องประกอบด้วย ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตัวเลขอาราบิก เครื่องหมาย – และ _ เท่านั้น จากนั้น คลิก Save ด้านล่าง ถ้าไม่ซ้ำกับใครที่เคยสร้างไว้ ก็สามารถใช้งานได้ครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ

Read More »

Bitly สายย่อ

ย่อ ย่อ ย่อ (เอ๊ะ เค้ามีกันแต่ โย่ว โย่ว โย่ว รึเปล่าหว่า) ย่อในความหมายของผู้เขียนรอบนี้นี่คือ ย่อลิงค์ที่มันย๊าว ยาววววววว ให้สั้นลง เพื่อที่เวลาจะส่งใน chat หรือแปะในหน้าเว็บ หรือเอาไปใช้งานต่อ มันจะได้ดูง่ายๆ ไง๊ ตัวช่วยที่ว่านี้ก็คือ Bitly extension บน google chrome นั่นเอง แน่ะ … อยากรู้กันแล้วใช่มั้ย ปะ ไปกันเลย ปกติแล้วมันก็จะมีวิธีที่เราแปลงลิงค์ให้สั้นกันอยู่แล้วไง ใช่มั้ย ทุกคนน่าจะคิดกันแบบนี้น่ะ แต่ที่ว่าปกติที่เราทำกันเนี่ย มันหลายขั้นตอนไงละ ต้อง copy ลิงค์ เปิดหน้าเว็บช่วยแปลง วางลิงค์ กดแปลงลิงค์ให้สั้น กว่าจะได้ เห็นมั้ย หลายขั้นตอน !! มาใช้วิธีติดตั้ง Bitly extension กันเถอะ เหลือแค่ 2 คลิก เท่านั้นเอง !!! โอยยยย ชีวิตดีขึ้นมาทันทีเลย ขั้นตอนแรกนะ ติดตั้งกันก่อนเลย Step 1 เข้าไปดาวน์โหลด Bitly ผ่าน chrome webstore กันได้เลย เมื่อเจอแล้วให้คลิก “Add to Chrome” เลยน๊าาาา Step 2 เมื่อเราติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้สังเกตุมุมบนด้านขวาของหน้าจอนะ เห็นมั้ย สัญลักษณ์สีแดงเล็กๆ นั่นน่ะแหละ คลิกลงไป 1 ครั้ง Step 3 หลังจากคลิกปุ๊บ ก็จะปรากฏหน้าจอขึ้นมาตามรูป ก็ให้เราเลือก Sign in ได้เลย ว่าจะเข้าใช้งานด้วย Account ใด Step 4 เมื่อ Sign in เรียบร้อยแล้วก็จะเห็นหน้าจอแบบนี้นะ bitly ยินดีต้อนรับเราแล้วววว!! Step 5 จากนั้นให้คลิกที่ icon bitly ที่มุมบนด้านขวาอีกครั้งนึง ก็จะแสดงหน้าจอให้เรา allow การเข้าถึงข้อมูลของเรา หน้าตาประมาณนี้นะ เมื่อเห็นก็คลิก “Allow” ได้เลย Step 6 มาลองใช้งานกันดีกว่า จากตัวอย่างผู้เขียนจะทดสอบเปิดหน้าเว็บที่มีลิงค์ย๊าววว ยาว ขึ้นมาในหน้าต่าง (ตามรูปเล้ย) จากนั้น คลิก icon bitly บน browser ตรงมุมบนด้านขวานั่นเลย Step 7 ให้สังเกตุนะ พอเรากด icon bitly ปุ๊บ ก็จะแสดงหน้าต่างด้านขวาขึ้นมา ซึ่งจะขึ้น short link ที่แปลงจากลิงค์ย๊าววว ยาว ตะกี้ให้สั้นลง เพื่อที่จะสามารถนำไปใช้งานต่อได้ง่ายขึ้น ถ้าจะเอาไปส่งในแชท หรือเอาไปใช้ต่อ คลิก “copy” เพื่อคัดลอกลิงค์ได้เลย เป็นยังไงกันบ้างทุกคน ง่ายขึ้นมั้ย มันช่วยให้การทำงานของเราเร็วขึ้นจริงๆ นะ ติดตั้งเถอะ ! แนะนำ แนะนำ แนะนำ นี่แนะนำ 3 times เลยนะ ดีจริง จริ๊ง จึงนำมาบอกเล่าเก้าสิบกันต่อ หวังว่าทุกคนจะไปลองใช้กันดูนะ วันนี้ก็ขอจบ Blog ที่ 3 ไปเพียงเท่านี้เน้ออออออ อ้างอิง : http://bit.ly/2N3Tut7

Read More »

จับภาพหน้าเว็บไซต์ ง่าย ๆ ฟรี ๆ ฟิน ๆ ด้วย FireShot Lite – Capture Page (ดูปากณัชชานะคะ แค็พ-เฉอะ)

บทความนี้ว่ากันด้วยเรื่องของ Extension บน Chrome กันอีกซักตัวนะคะ คราวนี้นำเสนอ Extension ที่จะช่วยในการ capture หน้าเว็บ ซึ่ง Easy to use มาก ๆ และ Free forever กันไปเลยค่า นั่นก็ คือ FireShot Version Lite นั่นเองงงงง เย่ ๆ เอ้า ปรบบบมือรัว ๆ สิคะ รออัลลลลไล แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ (หยุดรัวแทบไม่ทัน) สำหรับ Version Lite ที่เราจะติดตั้งใช้งานกันวันนี้นั้น อาจไม่ได้มี feature ต่าง ๆ ที่จะดำเนินการกับภาพที่เรา capture มาได้มากมาย เช่น Custom watermarks Advanced Editor: Undo/Redo, Resize, Crop and Save features หรือ Microsoft OneNote support และบลา ๆ นะคะ ซึ่งหากเราต้องการใช้ feature ที่มีอีกมากมายเหล่านี้ได้นั้น ก็ต้อง Pay ให้กับ FireShot Version Pro กันค่ะ ตอนนี้มีโปรโมชั่น 1 แถม 1 (เอ้ย ไม่ใช่ Watsons Boots หรือ TOPS น่ะจ๊ะ) โปรโมชั่นลดราคาเหลือ US$ 39.95 อยู่ค่ะ ช้าก่อน !! อย่าเพ่งรีบสอย เพราะผู้เขียนคิดว่า Version Lite ก็เพียงพอกับการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้วละค่ะ อย่าง User ท่านไหนใช้งานเว็บไซต์แล้วเกิดเจอ error ครั้นจะโทรมาแจ้ง Support แล้วแจ้งรายละเอียด error ที่ยาว (มาก) นั้นว่าอย่างไร ก็คงลำบากไม่น้อย หรือเมื่อโทรมาแจ้ง Support ว่าใช้งานแล้ว error ส่วนใหญ่ Support ก็จะแนะนำให้ส่งภาพหน้าจอที่ว่า error นั้นมาเพื่อจะได้ตรวจสอบให้ บางทีก็ทำม่ายโถ๊กกกก แต่บางคนก็สบายมากจ้า กดปุ่ม Print Screen หรือไม่ก็ใช้ Snipping Tool ที่มาพร้อมกับ Windows จับภาพ แต่ก็ต้องเสียเวลาในการวางภาพ แนบไฟล์ ส่งเมล กันอี๊กกก แต่ต่อจากนี้หากใช้งาน FireShot อะไรก็ง่ายๆ ก็สะดวกสบายมากขึ้นแล้วละค่า เพราะสามารถ capture หน้าเว็บปั๊บ ก็ส่ง Email ได้เลย (Account ผู้ส่งต้องเป็น Gmail) หลังจากนั้นโทรแจ้ง Support นิดหน่อย “ส่งภาพหน้าจอ error มาแล้วน่ะคะ/น่ะครับ” จบปิ๊ง สวย ๆ ทั้ง User และ Support พอคุยกันเข้าใจ อะไรๆ ก็ดีไปโหม๊ดดด 555+ ของฟรีที่ดีก็มีในโลกนะเออ เอ้า ปรบมือรัว (ต่อ) สิคะ รออัลลลลไล และขอขอบคุณผู้พัฒนานะคะ ฮี่ ๆ ปล. ส่วนใครที่อยากทราบข้อมูลของ Version Pro กับ Lite ว่ามี Features อะไร แตกต่างกันบ้าง มากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ลองเข้าไปดูข้อมูลเปรียบเทียบที่ลิงก์นี้ได้เลยค่ะ https://getfireshot.com/features.php เกริ่นกันซะยาวยืด ลิงหลับทั้งฝูงแย้ว มา ๆ ค่ะ สาระมีอยู่จริง มารู้จัก FireShot กันก่อนที่จะเริ่มใช้งานค่ะ เริ่มจากความสามารถในการจับภาพหน้าเว็บไซต์ก่อน ซึ่ง FireShot นั้นสามารถจับภาพหน้าเว็บได้ 3

Read More »

จัดระเบียบ Tab บน Chrome ด้วยเทเลทับบี้ เอ้ย Toby (โทบี้) กันดีกว่า

วันนี้จะมาแนะนำส่วนขยาย (Extensions – เครื่องมือเสริมบราวเซอร์) บน Chrome ที่มีชื่อว่า Toby ค่ะ ใช้งานฟรี กับวลีเด็ดที่เจ้า Toby นำเสนอตัวเองได้น่าสนใจมากเลยทีเดียว คือ Better than Bookmarks หลังจากที่ผู้เขียนได้ลองใช้งาน (Account แบบ Guest) ก็พบว่าการทำงานของเจ้า Toby นั้น ช่างเหมาะสมกับวลีดังกล่าวเสียจริง ๆ โดยเจ้า Toby จะช่วยเราจัดเก็บเว็บไซต์ที่เราใช้งานเป็นประจำทุกวัน บ่อย ๆ ซ้ำ ๆ หรือที่ถูกใจอยากจะเก็บเอาไว้ (ก็เว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เรา Bookmark เอาไว้นั้นแหละค่ะ) แยกตามหมวดหมู่ (Collections) ที่เราได้สร้างไว้อย่างมีระเบียบ โดยหากใช้งานเจ้า Toby เมื่อเราเปิด Chrome ขึ้นมา เจ้า Toby จะเปลี่ยนหน้าเริ่มต้นของ Chrome ให้เป็นรูปแบบรายการของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เราได้บันทึกจัดเก็บไว้ แน่นอน มันช่วยให้การเข้าถึงเว็บไซต์เหล่านั้นสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเราไม่ต้องเสียเวลาในการหา หรือป้อนชื่อเว็บไซต์นั้น ๆ ใหม่ทุกครั้ง แต่สามารถคลิกเลือกเว็บไซต์จากรายการเพื่อไปยังเว็บไซต์นั้นได้เลยทันที อย่างผู้เขียนทำหน้าที่เป็น Customer Support ซึ่งต้องดูแลหลาย ๆ ระบบ (Web Application)  จากแต่ก่อน Bookmark ไว้ แต่พอมาใช้เจ้า Toby ก็สบายเลยละคะ User โทรมาสอบถามปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ดูแลอยู่เมื่อไหร่ล่ะก็ พร้อมเข้าถึงเว็บไซต์เหล่านั้น (ซึ่งต้องเข้าออกทู๊กกกกกวันนนนน) เพื่อทดสอบ ตอบ แก้ไขปัญหาให้กับ User ได้อย่างทันทีเลยล่ะค่าาาา หรือ User ท่านไหนที่ชอบลืมชื่อเว็บไซต์ที่เราเข้าใช้งานเป็นประจำ ก็แนะนำให้ลองเอาไปใช้ดูนะคะ น่าสนใจมากเลยใช่มั้ยยยยล๊าาา งั้นเรามาติดตั้ง Toby ให้กับ Chrome ของเรากันดีกว่า พร้อมแล้ว ! ลุยยยกันเลยยยยค่ะ! ติดตั้ง Toby ให้ Chrome กันก่อน 1.ไปที่ลิงก์ https://chrome.google.com/webstore/category/extensions ค้นหา Toby และกดปุ่ม Add to Chrome เพื่อเริ่มการติดตั้ง Toby ให้กับ Chrome ค่ะ 2.Chrome จะแสดงกล่องยืนยันการติดตั้ง Toby กดปุ่ม Add extension เพื่อยืนยันการติดตั้ง รอจนกว่าจะสิ้นสุดการติดตั้งนะคะ เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้ว เราก็ได้เจอกับเจ้า Toby  เสียที หน้าตาก็จะหวานแหวว สีชมพู๊วว ชมพู และจะพบปุ่ม Toby ที่มุมขวาของ Chrome โผล่ขึ้นมาด้วย โดยเจ้า Toby จะ guide การใช้งานให้กับเราซึ่งมี 3 ขั้นตอนที่ง่ายมาก ๆ ดังนี้ค่ะ Create Your First collection. > Give your collection a name. > Drag the tab to the collection. เริ่มใช้งาน Toby กันเลย Create Your First collection สร้างหมวดหมู่ (collection) ที่จะใช้บันทึกจัดเก็บเว็บไซต์ โดยคลิก ปุ่มเครื่องหมายบวก + Add Collection Give your collection a name คลิก  เลือก Edit tittle แล้วทำการแก้ไขชื่อของ Collection ตามที่ต้องการ Drag the tab to the collection ลาก Tab เว็บไซต์ที่เราต้องการ (รายการเว็บไซต์จะมาจากที่เราเข้าใช้งาน) มาใน collection

Read More »

StayFocusd ~ Extension

สำหรับ Blog ที่2 ในรอบปีงบนี้ จะขอว่าด้วยเรื่อง Extension บน Chrome ที่เรียกว่า StayFocusd !! StayFocusd คืออะไร แล้วเจ้าตัวนี้เนี่ยมันทำอะไรได้บ้าง ? มา ไม่ต้องเกริ่นไปเกริ่นมามากมาย เรามาเริ่มทำความรู้จักกันเลยดีกว่า StayFocusd เป็น Extension อีกตัวนึงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเราด้วยการ “บังคับ” และ “จำกัด” เวลาที่ตัวเราเองใช้ไปกับเว็บไซต์ต่างๆ ที่ทำให้เราเสียเวลา เว็บที่หัวหน้าเรามองว่าไม่มีประโยชน์ (แต่มันมีประโยชน์ทางจิตใจกับเราไง หัวหน้าไม่เข้าใจหนูหรอกกกกกก T T) extension อันนี้เหมาะมาก สำหรับใครที่ติด Social Network เปิด youtube อัพเดทสถานะบน facebook ดูซีรีย์เกาหลีออนไลน์ ดูละครย้อนหลังผ่าน line tv เข้า shopee lazada บลาๆ จนถึงระดับที่ทำให้เสียการเสียงาน ลองมาใช้ StayFocusd กันดูเถอะ เบื้องต้นมันจะให้เรานำเว็บไซต์ที่เรามองละ ว่ามีแนวโน้มที่จะสูบเวลาของเราไปโดยเปล่าประโยชน์ ไปใส่ไว้ใน List แล้วก็ให้ตั้งเวลาในการที่เราจะไม่สามารถเข้าเว็บนั้นๆ ไม่ได้ชั่วคราว (ตามเวลาที่เราระบุไว้) เพื่อให้ ณ ห้วงเวลาดังกล่าว เราสามารถกลับมามีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานได้ 100% แทน *** ลองมาดูการติดตั้ง และใช้งานแบบคร่าวๆ กันเถอะ ขั้นตอนที่ 1. เข้า Chrome web store และค้นหาเลย StayFocusd หรือคลิกที่นี่ เพื่อติดตั้ง ขั้นตอนที่ 2. เมื่อ Add to Chrome เรียบร้อยแล้ว มุมซ้ายของ Browser ก็จะมีสัญลักษณ์กลมๆ สีฟ้าๆ แสดงขึ้นมา ตามรูปเลย ขั้นตอนที่ 3. เข้าไปตั้งค่าการใช้งาน โดยคลิกเลือก Settings ขั้นตอนที่ 4. ตั้งค่าการใช้งานตามต้องการ เช่น Active Days, Active Hours, Blocked Site, Option ว่าเราต้องการให้การตั้งค่าที่ระบุไว้ทำงานในวันไหน ช่วงเวลาใด และสิ้นสุดเมื่อไหร่ รวมถึง site ที่ต้องการ Block หรือแม้กระทั้งการ customize ข้อความที่จะแสดงเมื่อเราเข้าใช้ในช่วงเวลาที่เว็บดังกล่าวโดน Block เป็นต้น ขั้นตอนที่ 5. เมื่อเราทดลองกำหนดตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว และลองเข้าใช้งานดูก็จะพบกับหน้าจอประมาณนี้ สำหรับครั้งนี้ทางผู้เขียนก็ขอจบการแนะนำเพียงเท่านี้ หวังว่า Blog สั้นๆ อันนี้จะมีประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้อ่าน แต่ก็นะ ไม่ใช่ว่า block ผ่านคอมพิวเตอร์ แต่หยิบมือถือขึ้นมาเปิด app ช้อปปิ้งออนไลน์ เล่น facebook แทนนะ แบบนั้นมันก็ …….. เอาเป็นว่า ตั้งใจทำงานกันเถิดพี่น้องชาวไทยยยยย ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าเน้อ 🙂

Read More »