SQL พื้นฐานสำหรับ Data Analyst
สำหรับคนที่มีพื้นฐานหรือเคยใช้งาน SQL มาบ้างแล้ว จะรู้จักคำสั่ง SQL พื้นฐานต่างๆ มีบางส่วนที่ไม่ค่อยใช้งานมัน แต่มันมีประโยชน์อย่างยิ่งโดยเฉพาะสำหรับ Data Analyst เช่น Distinct ในบางครั้ง ถ้าต้องการ Records ของข้อมูลที่ไม่ซ้ำกัน สามารถใช้ Distinct มาช่วยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ไม่ซ้ำกัน โดยใช้งานกับ Columns IN IN Operator ช่วยให้สามารถทดสอบได้ว่า Expression นั้นตรงกับ Value ใด ๆ ใน List ที่ระบุหรือไม่ มันจะช่วยลดการใช้งาน “OR” หลาย ๆ เงื่อนไข Having มันเป็นการใช้เงื่อนไขกับกลุ่มของผลลัพธ์เพื่อกรองข้อมูลออกมา แต่คำถามที่น่าสนใจก็คือ ทำไมถึงไม่ใช้ “WHERE” ที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกันล่ะ แน่นอนว่าเราใช้ “WHERE” เพื่อระบุเงื่อนไขให้กับ Columns ที่เราเลือก ในขณะที่ “HAVING” จะถูกใช้เพื่อระบุเงื่อนไขให้กับ Groups ที่ถูกสร้างขึ้นโดย “GROUP BY” Clause “HAVING” Clause จะต้องถูกใช้ตามหลัง “GROUP BY” Clause แต่จะอยู่ก่อน “ORDER BY” Clause ในตัวอย่างด้านล่างนี้ SQL HAVING Clause จะ Filter ผลลัพธ์เฉพาะ คณะที่มีจำนวน นักศึกษา มากกว่า 500 คน เท่านั้น LIMIT “LIMIT” ถูกใช้เพื่อจำกัดหรือกำหนดจำนวนของผลลัพธ์ตามจำนวนที่แน่นอน เนื่องจากในบางครั้งก็จำเป็นต้องจำกัดจำนวนของผลลัพธ์ของการ Query Wild Cards โดยทั่วไปแล้ว Wild Card เป็นวิธีในการค้นหาตัว Characters ผ่าน Strings ซึ่ง Wild Card ใช้ “LIKE” Operator โดย Wild Card ที่เป็นที่รู้จักและถูกใช้งานกันมากที่สุด ก็คือ “%” และ “_” “%” : หมายถึง ศูนย์หรือมากกว่าหนึ่ง Character ในตัวอย่างด้านล่าง เรากำลังบอก SQL ให้ดึงข้อมูลจาก Table “student” ที่ใน Column “name” เริ่มต้นด้วยตัวอักษร “w” แล้วตามต่อด้วยตัวอักษรอะไรก็ได้และมีจำนวนกี่ตัวก็ได้ อีกตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งเรากำลังบอก SQL ให้ดึงข้อมูลจาก Table “student” ที่ใน Column “name” ลงท้ายด้วยตัวอักษร “wan” และสามารถเริ่มต้นด้วยตัวอักษรอะไรก็ได้และมีจำนวนกี่ตัวก็ได้ “_” : หมายถึง Character เพียงตัวเดียวเท่านั้น ใน Query ด้านล่าง จะทำการดึงข้อมูลที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษรอะไรก็ได้ 1 ตัว แล้วตามด้วยตัวอักษรต่าง ๆ ตามรูปแบบ “_ilaiwan” หรีอต้องการดึงผลลัพ์ธ์จาก Column “name” ที่เริ่มต้นด้วย “wilaiwa” แล้วตามด้วยตัวอักษรอะไรก็ได้อีก 1 ตัว และสามารถใช้งานด้วยการรวมทั้ง 2 อย่างเข้าด้วยกันเพื่อการกำหนดผลลัพธ์ที่เจาะจงมากขึ้น เช่น ดึงข้อมูลจาก Column “email” ที่ขึ้นต้นด้วยจำนวนตัวอักษรกี่ตัวก็ได้ และลงท้ายด้วยอักษรเพียงตัวเดียว อ้างอิง : https://www.techstarthailand.com/blog/detail/SQL-Beyond-The-Basics/1296