ASP.NET MVC Part2: เริ่มต้นสร้างเว็บด้วย MVC with Bootstrap

สวัสดีค่ะ จากบทความที่แล้ว ASP.NET MVC Part 1 : ทำความรู้จักกับ ASP.NET MVC ได้กล่าวถึง ASP.NET MVC ไปบ้างแล้วว่าคืออะไร ในส่วนของบทความนี้จะแนะนำการเริ่มต้นสร้าง Project เพื่อพัฒนา Web Application ด้วย Microsoft Visual Studio 2013 โดยใน MVC5 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุด ได้มีการติดตั้ง Bootstrap มาให้ในตัว ช่วยให้การพัฒนาในส่วนของ View สามารถเรียกใช้งาน Bootstrap class ร่วมกับ Razor syntax(จะกล่าวถึงในบทความถัดไป) ในการแสดงผลหน้า View ได้ง่ายขึ้นและทำให้สามารถรองรับหลากหลายอุปกรณ์ที่มีหน้าจอที่มีขนาดแตกต่างกันออกไป โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งเพิ่มเอง Tools & Environment  Microsoft Visual Studio 2013 Microsoft .Net Framework 4.5 ภาษาที่ใช้ในการพัฒนา Visual C# Step 1: เปิด Visual Studio ขึ้นมา และคลืกที่ New Project รูปที่ 1 Step 2: ที่เมนูด้านซ้ายให้เลือก Visual C# > Web >ASP.NET Web Application และตั้งชื่อ Project ดังรูปที่ 2 หลังจากนั้นให้กดปุ่ม OK รูปที่ 2 Step 3: เลือก Template Web โดยเลือกเป็น MVC หลังจากนั้นกด OK รูปที่ 3 Step 4: Check และ Update เวอร์ชัน Bootstrap สังเกตที่ solution explorer ฝั่งด้านขวา ที่โฟลเดอร์ Content และโฟลเดอร์ Scripts จะพบไฟล์ Css และ JavaScript ของ Bootstrap ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้ว รูปที่ 4 ตรวจสอบเวอร์ชันของ Bootstrap ว่าเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้วหรือยัง โดย คลิกขวา ที่ Project แล้วเลือก Manage Nuget Packages ดังรูปที่ 5 รูปที่ 5 จะปรากฎหน้าต่าง Manage Nuget Package ซึ่งจะแสดง Package หรือ Library  ทั้งหมดที่ตอนนี้ Project เราติดตั้งอยู่ ให้เลือกดูที่ Boostrap และสังเกตคำอธิบายที่ช่องด้านขวา จะแสดงเวอร์ชั่นอยู่ ซึ่งจากรูปที่ 6 เป็น Bootstrap 3.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันปัจจุบันแล้ว หากยังไม่เป็นปัจจุบันจะขึ้นปุ่มให้สามารถ Update เวอร์ชันได้ รูปที่ 6  หลังจากนั้นให้ไปดูที่โฟลเดอร์ App_Start > BudleConfig.cs  ดังรูปที่ 7 โดยไฟล์ ฺBundleConfig.cs จะทำหน้าที่ลงทะเบียนเก็บ Path ของไฟล์ Java script และ CSS ต่างๆที่มีการเรียกใช้ในระบบไว้ที่นี่ เพื่อไว้เวลาเราอ้าง Path เราสามารถอ้าง Path ตามชื่อ Bundle ที่เราสร้างโดยไม่ต้องเรียกไปยัง Path File ตรงๆได้ รูปที่ 7 Step 5: ทดลอง Run preview ดูหน้าเว็บ ก่อนจะรัน ให้ไปที่ โฟลเดอร์ View > Shared

Read More »

ASP.NET MVC Part 1 : ทำความรู้จักกับ ASP.NET MVC

สวัสดีค่ะ วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำให้รู้จักกับแนวทางการพัฒนา Web Application ด้วย ASP.NET MVC ก่อนหน้านี้ผู้เขียนจะพัฒนา Web Application ด้วย ASP.NET Web Forms มาตลอด และช่วงที่ผ่านมา ผู้เขียนเองมีโอกาสได้ศึกษาและทำความเข้าใจกับ ASP.NET MVC มาซักระยะหนึ่ง จึงมาเขียนบทความเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับ การพัฒนา Web Application ด้วย ASP.NET MVC ซึ่งในบทความนี้ อ้างอิงและแปลมาจากบทความ WebForms vs MVC ซึ่งจะประกอบไปด้วย ASP.NET คืออะไร? ASP.NET Web Forms คืออะไร? MVC คืออะไร? ASP.NET MVC คืออะไร? เปรียบเทียบระหว่าง Web Forms และ MVC เลือกใช้อะไรดี ระหว่าง Web Forms และ MVC ? ASP.NET คืออะไร?    คือ Web application framework ที่ถูกพัฒนาโดย Microsoft สำหรับนักพัฒนาในการพัฒนา web application ขึ้นมา โดยโปรแกรมด้วยภาษา C#,VB.NET และอื่นๆ ณ ปัจจุบัน มีอยู่ 2 รูปแบบในการเลือกใช้พัฒนา ได้แก่ Web Forms และ MVC ASP.NET Web Forms คืออะไร? คือ framework ในการพัฒนา web application ที่ถูกออกแบบมาในลักษณะ RAD(Rapid Application Development) คือ สามารถพัฒนา Web application ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้วิธีการลาก control มาวางบนพื้นที่ design หน้า page และเขียน code ภายใต้ control เหล่านั้น โดยอาศัย concept การทำงานของ Postback(การส่งข้อมูลไปมาระหว่าง server และ client) และ ViewState(การเก็บค่าให้คงไว้ระหว่างการทำ postback) วิธีการสร้างหน้า page ของ Web Forms การทำงานของ Web Forms MVC คืออะไร? คือ design pattern ที่ใช้ในการสร้าง Web Application แนวความคิดของ MVC design pattern จะจัดการแยกหน้าที่ขององค์ประกอบใน application ออกเป็นส่วนๆ(separation) เพื่อให้สะดวก รวดเร็ว และง่ายขึ้น ในการสร้าง พัฒนา และขยายระบบเพิ่มเติม รวมถึงมันจะทำให้เราทดสอบ application นี้เป็นส่วนๆได้โดยไม่กระทบ หรือกระทบน้อยที่สุดกับส่วนอื่น โดย MVC ย่อมาจาก Model, View และ Controller Model คือ คือส่วน Business Model หรือส่วนที่ติดต่อกับฐานข้อมูล Controller คือ ส่วนควบคุมและรับ request จาก user มาและไปดึงข้อมูลจาก Model มาเพื่อแสดงผลข้อมูลกลับไปยัง user ที่ส่วน View View คือ ส่วนที่แสดงผลข้อมูล ASP.NET MVC คืออะไร? คือ framework ในการพัฒนา web application ที่ถูกออกแบบให้รองรับ MVC pattern โดยจัดการแยกหน้าที่ขององค์ประกอบใน application ออกเป็นส่วนๆ(separation of concerns) ด้วยการจัดการที่แยกออกเป็นส่วนๆ ทำให้การทดสอบระบบ(Unit Testing)ที่ซํบซ้อน ทำได้ง่ายขึ้น วิวัฒนาการ

Read More »