สร้าง Barcode แบบง่ายๆ ด้วย Word

ถ้าพูดถึงการสร้าง Barcode ในปัจจุบันก็จะมีมากมายหลายวิธี แล้วแต่เราจะเลือกใช้ แต่สำหรับ Blog นี้ผู้เขียนจะขอแนะนำการสร้าง Barcode แบบง่ายๆ ใช้เวลาไม่นาน โดยที่เราไม่ต้องเพิ่มโปรแกรมเสริม หรือใช้โปรแกรมอื่นๆ เข้ามาช่วยเลย ขอแค่มี Microsoft Word version 2013 หรือ 2016 ในเครื่อง … เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว 🙂   มาทำความรู้จัก ระบบบาร์โค้ด (Barcode System) กันหน่อย  ระบบบาร์โค้ด หมายถึงการใช้สัญลักษณ์บาร์โค้ดบ่งชี้ไปยังข้อมูลตัวเลขหรือตัวอักษร และประยุกต์ต่อยอด โดยการนำตัวเลขหรือตัวอักษรเหล่านั้นบ่งชี้ไปยังสิ่งต่างๆ เช่น สินค้า (Product), วันหมดอายุ (Expiration date), บุคคล (Person), URL Website เป็นต้น ซึ่งจะมี 2 ประเภทหลักคือ 1 Dimension และแบบ 2 Dimension   *สำหรับคำสั่งในการสร้างบาร์โค้ด DISPLAYBARCODE ใน Blog นี้ที่เราจะพูดถึงนั้น จะรองรับบาร์โค้ดแบบต่างๆ ดังนี้ QR, CODE128, CODE39, JPPOST, EAN, JAN, UPC, ITF14, NW7, CASE   ขั้นตอนที่ 1 : เปิดโปรแกรม Word ขึ้นมา                       ขั้นตอนที่ 2 : กดปุ่ม Ctrl + F9 จากนั้นเราก็จะเห็นวงเล็กปิดเปิดเพิ่มเข้ามาใน Word ของเรา                       ขั้นตอนที่ 3 : พิมพ์คำสั่งตาม DISPLAYBARCODE ลงไปในวงเล็บ ตัวอย่างคำสั่งเช่น DISPLAYBARCODE “https://sis.psu.ac.th” QR \q 3                 ขั้นตอนที่ 4 : จากนั้นคลิก Alt + F9 เพื่อดูผลลัพธ์ แท่น แท๊นนน เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย                       *ขออธิบายความหมายของแต่ละส่วนในคำสั่งสักนิดนึง เพื่อให้ผู้ใช้ได้เข้าใจง่ายขึ้น สำหรับส่วนแรก   DISPLAYBARCODE   — คือคำสั่งที่เราจะใช้ “https://sis.psu.ac.th” — เป็นข้อมูลที่เราจะใส่ในบาร์โค้ด ให้ใส่ไว้ภายในเครื่องหมาย ” ” QR — เป็นคำสั่งที่ระบุว่าสร้างบาร์โค้ดแบบ QR หากต้องการแบบอื่นเช่น CODE128 ก็เปลี่ยนได้ โดยให้อิงตามรหัสบาร์โค้ดที่รองรับ \q 3  — เป็นการกำหนด Error correction level สำหรับใน QR code เท่านั้น หมายเหตุ : ระดับการแก้ไขข้อผิดพลาดของข้อมูล (Error Correction Level) คือ ความสามารถในการกู้คืนข้อมูลที่เสียหาย สามารถกำหนดได้ 4 ระดับ ดังนี้ L=7%, M=15%, Q=25%, H=30% ซึ่งการกำหนดในระดับที่สูงขึ้นจะมีผลทำให้ขนาดของ QR Code เพิ่มขึ้น   เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอนเองใช่มั้ย สำหรับ Blog นี้ผู้เขียนก็จะนำเสนอแบบสั้นๆ ง่ายๆ แต่หากผู้ใช้ท่านไหนต้องการศึกษาแบบละเอียด

Read More »

ปัญหาในการลืมรหัสผ่านจะหมดไปด้วย … LastPass

blog ที่ 3 สำหรับปีนี้ ทางเราขอนำเสนอ แทน แท่น แท๊นนนน Extension ที่ชื่อว่า “LastPass” นั่นเอง ส่วนเสริมตัวนี้จะช่วยให้ปัญหาการลืม Password ที่เข้าเว็บต่างๆ ทั้งร้อยแปดพันเก้า ที่เราเข้าใช้งานหมดไป ในปัจจุบันนี้ต้องยอมรับอย่างนึงว่า เว็บไซต์ที่เราใช้บริการทั้งหลายทั้งมวลนั้นมีมากมายหลากหลายเหลือเกิน ทั้งงานเอย social เอย หรือแม้แต่จะเป็น ฐานข้อมูลในการเก็บข้อมูลต่างๆ ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนจะต้องมีการสร้าง account เพื่อเข้าไปใช้งานทั้งสิ้น และสิ่งนึงที่เราจะเจอบ่อยๆ ก็คือ website นี้ รหัสผ่านอะไรแล้วน้ออออ !! 55+ อะ ไม่พูดพร่ำทำเพลงมากมาย ไปดูเจ้าตัว Extension “LastPass” กันเถิดดดด ….. 1. ติดตั้ง Extension ผ่านลิงค์นี้ได้เลย คลิก  จากนั้นเริ่มต้นสร้างบัญชี เพื่อเข้าใช้งาน ปล…จากนั้นต่อไปในอนาคตเราก็จะปล่อยให้ LastPass ช่วยเราจำในส่วนที่เหลืออื่นๆไง                         2.โดยให้ตั้งรหัสผ่านตามเงื่อนไขที่กำหนด (อันนี้เพื่อความปลอดภัยนั่นแหละ)                     3. เมื่อเราตั้งรหัสผ่านตรงตามเงื่อนความปลอดภัยที่กำหนด ก็จะพบกับหน้าจอตามรูป จากนั้น คลิก “NEXT” โลดดด                     4. เมื่อดำเนินการครบตามขั้นตอนแล้ว ก็จะพบกับหน้าตาเจ้า LastPass เรียบๆ ดูแล้วใช้งานง่าย ไม่ยากๆ                     5. คราวนี้เราก็มาจัดการเพิ่มข้อมูล ที่เราต้องการให้เจ้า LastPass ช่วยเราจำกันเถอะ โดยสามารถคลิกเลือก ในส่วนเมนูด้านซ้ายของหน้าจอ หรือจะเลือกจาก Icon ด้านล่างมุมขวาของหน้าจอก็ได้เช่นเดียวกัน                     6. ตัวอย่างเช่น สร้างข้อมูลรายละเอียดของเว็บที่เราเข้าใช้งานเป็นประจำ Gmail เป็นต้น จากขั้นตอนที่ 5 เมื่อคลิก เพิ่มเว็บไซต์ ก็จะพบกับหน้าจอประมาณนี้นะ เมื่อใส่รายละเอียดครบถ้วนแล้ว ก็กด “บันทึก” ได้เลย                     7.  จากนั้นระบบก็จะบันทึกข้อมูลเว็บไซต์ Gmail ของเราเอาไว้ เราก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบทุกเว็บที่เราอยาก ให้เจ้า LastPass ช่วยจำ เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย ปัญหาการลืมรหัสผ่านเข้าเว็บต่างๆ ที่มีมากมายก่ายกองของเรา ก็จะหมดไป ** ปล… แต่ต้องไม่ลืมรหัสผ่านที่ใช้เข้า LastPass ตัวนี้น๊าาาา 555+                     8. สำหรับความปลอดภัยอื่นๆ เราก็สามารถเข้าไปดู ไปตั้งค่าได้ โดยเลือกผ่านเมนู การตั้งค่าบัญชี ซึ่งก็จะมีทั้งแบบ ฟรี และหากต้องการที่ปลอดภัยมากขึ้นไปอีกระดับก็ต้องเป็นแบบ premium กันแหละ แนะนำว่าลองเล่น ลองคลิกๆ ศึกษาเพิ่มเติมกันได้นะ        

Read More »

Grammarly For Chrome

Blog ที่2 สำหรับปีนี้ ทางผู้เขียนก็อยากจะขอนำเสนอ Extension เจ๋งๆ ให้ได้รู้จักกันอีกสักอันละกันเนอะ เชื่อเลยว่าหลายๆคน ที่ไม่ถนัดในภาษาอังกฤษมากนัก (อย่างเช่นผู้เขียนนี่แหละ – -“) จะต้องกราบงามๆ ให้กับคนที่พัฒนาสร้างสรรค์ Extension ที่ชื่อว่า Grammarly ตัวนี้ขึ้นมาให้เราได้ใช้กัน … __/\__ *** ถ้าพร้อมแล้วก็มาทำความรู้จัก Grammarly For Chrome กันเถอะ *** Grammarly เป็น Extension ที่จะทำหน้าที่คอยจับตามองในสิ่งที่เราพิมพ์ลงไปแบบ Real-time (ทันที) และจะคอยบอกให้เรารู้ ว่าเราพิมพ์ผิดคำไหน ตกตรงจุดไหน และที่สำคัญเจ้าตัวนี้มันจะแนะนำวิธีแก้ไขให้ หรือบางทีก็จะมีการแสดงอธิบายเพิ่มเติมให้ด้วย ความฉลาดของเจ้าตัวนี้หลักๆ ที่จะช่วยเราได้อย่างเช่น การสะกดคำ การลืมเติม S หรือการใส่ . (dot) หรือการจัดวางเรื่องของรูปแบบประโยค การขึ้นต้นคำ เป็นต้น อะ ไม่ต้องบรรยายกันมากละ มาลองติดตั้ง แล้วก็ใช้งานจริงกันเลยดีกว่าาาา ถ้าพร้อมแล้วก็ ลุยยยย กันเลย   *** วิธีติดตั้ง Grammarly For Chrome *** 1.เปิด Google Chrome Browser เพื่อติดตั้ง Extension คลิกที่นี่ จากนั้นเลือกเพิ่ม Extension ดังกล่าว                   2. หลังจากเพิ่มส่วนขยายเรียบร้อยแล้ว ก็จะพบกับหน้าจอ Personalize Grammarly ดังรูป เราสามารถเลือกระบุได้ว่า ส่วนใหญ่แล้วเรื่องที่เราเขียนจะเกี่ยวกับด้านไหน และระบุได้ว่าทักษะ ที่เรามีเนี่ยอยู่ที่ระดับประมาณไหน แต่หากไม่ต้องการระบุใดๆ ก็สามารถกด Skip เพื่อข้ามได้เลย                 3.ถัดมาให้ Create Account เพื่อเข้าสู่ระบบ โดยเราสามารถจะเลือก with facebook หรือ with google ก็ได้นะสำหรับคนที่มี Account อยู่แล้ว หากนอกเหนือจากนี้ก็ระบุ Email ที่ต้องการใช้ไปได้เลย                 4.แท่น แท่น แท๊นนน เมื่อ Login เข้ามาแล้วก็จะพบกับหน้าจอ Welcom to Grammarly! แบบในรูปนะ หน้านี้ก็จะมีให้เราเลือกว่าจะใช้แบบ ฟรี หรือจะใช้แบบ Premium เอาจริงๆ ตัดสินใจได้ไม่ยากเลย คลิกลงไปแรงๆ ตรงที่เขียนว่า “Continue to Grammarly It’s Free” 555+ จะเสียเงินทำไม แค่ที่เค้าฟรี มาให้เราก็เพียงพอที่จะใช้ได้ในชีวิตประจำวันของเราแล้ววว !!!                 5. คราวนี้มาทดลองใช้ Extension ตัวนี้ในการส่ง E-mail กัน ปล..แต่จริงๆแล้ว ไม่ใช่แค่ใช้ในการพิมพ์ E-mail เท่านั้นนะ จะเขียน Blog หรือพิมพ์อย่างอื่นผ่าน Chrome ก็สามารถใช้ Extension ตัวนี้ได้เช่นเดียวกันนะเออ ตัวอย่างเช่น พิมพ์ข้อความ young people are talking less on their mobile ทดสอบโดยการพิมพ์ถูกบ้าง ผิดบ้าง ก็จะสังเกตุได้ว่าเจ้าตัว Grammarly ก็จะตรวจสอบคำที่คาดว่าจะไม่ถูกต้อง และขีดเส้นใต้ สีแดงเอาไว้            

Read More »

Email tracking By Google Chrome Extension

เมื่อวันเวลาหมุนเวียนมาบรรจบพบกันอีกครั้ง ก่อนการเขียนผล TOR ในปีนี้ ก็ได้เวลาที่เหล่าเราทั้งหลายจะมาเริ่มต้นเขียน Blog กันอีกครั้ง และเช่นเคยสิ่งที่ผู้เขียนมีโอกาสศึกษา ค้นคว้าเพิ่มเติม หรือทดลองใช้งาน โดยมากแล้วก็จะเกี่ยวพันกับหน้าที่การงานในปัจจุบันนั่นแล ซึ่งหน้าที่หลักที่ผู้เขียนต้องทำทุกๆ วัน นั่นคือการรับแจ้งและตอบปัญหาให้กับลูกค้าผ่านทาง E-Mail และต้องขอบอกเลยว่าสำหรับผู้เขียน การตรวจสอบว่าเมลล์ถูกส่งไปถึงปลายทางหรือมีการเปิดอ่านหรือไม่นั้น มันเป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆ ในงาน IT เพราะนอกจากการโทรแล้ว อีกหนึ่งช่องทางหลักในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน แถมยังประหยัดรายจ่ายอีกต่างหาก นั่นก็คือการส่ง E-Mail นั่นเองแหละหนา โดยหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือการติดตั้ง Extension บน Google Chrome และใน Blog นี้ผู้เขียนจะขอแนะนำให้ผู้อ่านได้รู้จักกับ Chrome Extension ที่มีชื่อว่า “Email Tracking for Gmail & Inbox” ต้องขอบอกว่าจิ๋วแต่แจ๋วนะจ๊ะออเจ้าทั้งหลาย !! Email Tracking คืออะไร ??? เอาแบบสั้นๆ เลย มันคือตัว App ที่ไว้คอย Track (ติดตาม) ว่า E-Mail ที่เราได้ส่งหรือตอบกลับไปนั้น ได้ถูกเปิดอ่านแล้วหรือไม่นั่นเอง วิธีติดตั้ง Email Tracking for Gmail & Inbox 1.เปิด Google Chrome Browser เพื่อติดตั้ง Extension คลิกที่นี่ จากนั้นเลือกเพิ่ม Extension ดังกล่าว                     2. จากนั้นให้เข้าสู่ระบบ Gmail เลือก Sign in with Google                     3.จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างให้เรา อนุญาตให้ Mailtrack เข้าถึงบัญชีของเรา                     4.ถัดมาจะให้เราเลือกว่าจะใช้งานแบบไหน และระดับเราๆแล้ว จะเลือกอะไรได้ล่ะ เลือก Free เท่านั้นก็พอ !!               5.ระบบก็จะบอกเราว่า ยินดีด้วย คุณติดตั้ง Mailtrack เรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้คลิก “Go to my email”                   6.เมื่อเข้าสู่หน้าจอ E-Mail ของเราแล้วนั้นจะสั่งเกตุได้ว่าจะมี Icon ของตัว Mailtrack แสดงอยู่ตรงมุมบนขวา                   7.ในขั้นตอนต่อไปให้เราทดสอบโดยการเขียนและส่ง E-mail ไปยัง E-Mail อื่นที่เราสามารถเข้าไปเปิดอ่านเพื่อทำการทดสอบได้ เมื่อส่งไปแล้วก็ให้ทดสอบโดยการไปเปิดอ่าน E-Mail ดังกล่าว และกลับมายัง E-Mail หลักที่เราใช้ส่ง จะสังเกตุได้ว่าจะมีการ แจ้งเตือนกลับมาจาก MailTrack Alert ที่เราตั้งค่าไว้                 8.ถ้ามีการเปิดอ่าน E-Mail ของเราที่ส่งออกไป ระบบจะมี Notification แจ้งเตือนมี E-Mail แจ้งสถานะกลับมา และในกล่องจดหมายที่ส่งแล้ว จะมี Icon เครื่องหมายถูกคู่ซ้อนกันสีเขียว ตัวอย่างดังรูป

Read More »

สั่งให้ Excel พูดด้วยเครื่องมือ Speak Cells

สำหรับ blog ในวันนี้ ทางผู้เขียนขอแนะนำเทคนิคการใช้งานเครื่องมือใน Quick Access Toolbar (QAT) ที่จะสามารถทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้น โดยการเลือกเครื่องมือที่มีการใช้งานบ่อยๆ มาไว้ในที่ที่เข้าถึงง่าย   แล้ว Quick Access Toolbar คืออะไร ? อธิบายแบบง่ายๆ เลยนะ มันคือ แถบคำสั่งที่อยู่มุมบนด้านซ้ายของตัวโปแกรมชุด Office ไม่ว่าจะเป็น Excel, Word หรือ PowerPoint เพื่อให้เราสามารถเรียกใช้งานคำสั่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ที่เราเห็นอยู่บ่อยๆ คือพวกปุ่ม Save, Undo, Redo นั่นแหละ   แล้วถ้าหากเราต้องการ Add คำสั่งอื่นๆ เพิ่มเข้ามาละ จะต้องทำยังไง ? วิธีการเพิ่มคำสั่งใน Quick Access Toolbar วิธีที่หนึ่ง สามารถ Add ได้จากปุ่มที่เห็นอยู่แล้ว ดูตัวอย่างได้ตามรูปด้านล่าง คลิกขวาบนคำสั่งที่ต้องการ จากนั้นเลือก Add to Quick Access Toolbar วิธีที่สอง คลิก Add More Command (วิธีนี้สามารถเลือกคำสั่งแบบแปลกๆ ที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นเข้ามาได้ด้วย) ดูตัวอย่างได้ตามรูปด้านล่าง คลิกเลือกสัญลักษณ์ สามเหลี่ยม ดังรูป เลือก “More Commands…” Choose commands from ให้เลือกแสดงเป็นแบบ All Commands หากอยากเห็นทั้งหมด หรือจะเลือกแบบ Commands Not in the ribbon ก็ได้นะ เดี๋ยวมันจะกรองให้ ตัวอย่างดังรูป จากนั้นเราจะเห็นเมนูทั้งหมด สามารถเลือกคำสั่งที่ต้องการและ คลิกปุ่ม “Add” จากนั้นคลิกปุ่ม “OK” เพื่อยืนยันการเพิ่มคำสั่งดังกล่าว สำหรับคำสั่งที่เราจะเลือกแนะนำใน Blog นี้คือ คำสั่ง “Speak Cells” เมื่อเรา Add Commands เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะเห็นสัญลักษณ์คำสั่งดังกล่าวเพิ่มเข้ามาในส่วนของ Quick Access Toolbar ซึ่งประโยชน์ของเจ้าคำสั่งนี้เนี่ย คือการที่โปรแกรมจะช่วยทวนสิ่งที่เราพิมพ์เข้าไป เพื่อลดความผิดพลาด โดยไม่ต้องมานั่งเสียเวลาอ่านทวนซ้ำในสิ่งที่เราพิมพ์เข้าไปนั่นเอง (แต่ต้องเป็นภาษาอังกฤษนะ) ทางผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ เหล่านี้น่าจะมีประโยชน์สำหรับใครหลายๆ คน (รวมถึงตัวผู้เขียนด้วย) ซึ่งนอกเหนือจาก Commands ดังกล่าวนั้น Excel ก็ยังมีเครื่องมือเจ๋งๆ ที่เราสามารถ Add เข้ามายัง Quick Access Toolbar เพิ่มเติมได้อีกเยอะแยะมากมาย ผู้อ่านสามารถทดลองคลิกๆ เลือกๆ เพิ่มเข้ามาได้เลย ไม่ต้องกลัวโปรแกรมจะเจ๊งงงงนะ ไม่ลองเล่นก็จะไม่รู้น่ะแจ๊ะ แฮ่ ^____^   ขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง https://www.sara2u.com/tips-trick.html http://www.inwexcel.com/

Read More »