รู้จักสื่อแบบ AR

TOR รอบใหม่นี้ Blog แรก (จาก 16 Blog!! ที่ต้องเขียน) ที่ผู้เขียนจะนำมาเล่าสู่กันฟังก็คือ เทคโนโลยี AR จะมาเล่าว่ามันคืออะไร แล้วถ้าเราจะสร้าง AR เนี่ย จะต้องทำยังไง ยากง่ายแค่ไหน แต่ๆๆ Blog แรกเนี่ยเอาเป็นแค่ลองมาทำความรู้จักกันก่อนละกันเนอะ วิธีการสร้างขอเป็น Blog ถัดๆ ไปละกัน อิอิ 🙂 AR คืออะไร ??หลายๆ คนคงมีคำถามแบบเดียวกัน และอีกหลายๆ คนก็คงจะไม่เคยรู้ว่าเจ้า AR เนี่ย อยู่ใกล้กับชีวิตประจำวันเรามากกว่าที่คิดนะ 55+ ——————————————————————————————————————– เรามารู้จักกับเจ้าเทคโนโลยี AR กันเถอะ …. เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) คือเป็นเทคโนโลยีที่ผสานเอาโลกแห่งความจริง (Real) เข้ากับโลกเสมือน (Virtual) โดยผ่านทางอุปกรณ์เว็บแคม กล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือคอมพิวเตอร์ ร่วมกับการใช้ Software ต่างๆ ซึ่งจะทำให้ภาพที่เห็นในจอภาพจะเป็นวัตถุ (Object) ยกตัวอย่างเช่น คน สิ่งของ โดยแสดงผลออกมาเป็นลักษณะ 3 มิติ ซึ่งมีมุมมองถึง 360 องศาเลยนะ ——————————————————————————————————————– จริงๆ แล้วเนี่ย AR มันเป็นเทคโนโลยีที่มีมานานมากกกกแล้ว ทางผู้เขียนก็ได้ยินผ่านๆ มาอยู่ตลอด แต่ยังไม่เคยได้ลองทดสอบเข้าไปศึกษาและใช้งานแบบจริงๆจังๆ ซะที อาจเพราะในอดีต จะมีข้อจำกัดในทางเทคโนโลยีจึงยังไม่ค่อยมีความแพร่หลายในการใช้งานสักเท่าไหร่ แต่สำหรับยุคปัจจุบัน แทบไม่ต้องพูดถึงเลยว่า อุปกรณ์สมาร์ทโฟนเนี่ยเราสามารถข้าถึงได้ง่ายดายแค่ไหน “เรียกว่าปัจจัยที่ 5 กันเลยทีเดียว” เล่นกันตั้งแต่เด็ก 3 ขวบ จนไปถึงผู้สูงอายุวัย 80 กันนั่นแหละ !! ดังนั้นเทคโนโลยีตัวนี้จึงกลับมาเริ่มมีความแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ถูกกล่าวถึงและมีคนให้ความสนใจอยู่เป็นระยะ อาจจะไม่โดดเด่นเท่ากับอีกหลายๆ ตัว แต่ก็คาดว่ายังสามารถต่อยอดไปได้อีกไกลแหละนะ ในปัจจุบันเทคโนโลยีเสมือนจริง สามารถนำมาพัฒนาเป็น Application เพื่อช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ของเด็กๆ หรือช่วยในส่วนของธุรกิจการค้าที่ต้องปรับกลยุทธ์เชิงรุกในรูปแบบออนไลน์ หรือจะให้ยกตัวอย่าง AR ง่ายๆ เลยคือ “เกมส์โปเกมอน โก” นั่นแหละ หลักการทำงานของ AR หลักๆ ประกอบด้วย วิเคราะห์ภาพ (Image Analysis) โดยค้นหาจากตัว Marker (หรือที่เราเรียกว่า Markup) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ หรือรูปภาพที่เรากำหนดไว้เป็นตัวเปรียบเทียบ กับสิ่งที่เราได้เก็บไว้ในฐานข้อมูล (Marker Database) กล้องวิดีโอ กล้องเว็บแคม กล้องโทรศัพท์มือถือ หรือตัวจับ Sensor อื่นๆ Software ส่วนประมวลผลเพื่อวัตถุแบบ 3 มิติ การแสดงผลบนจอภาพจากคอมหรือโทรศัพท์มือถือ หรืออื่นๆ โดยกระบวนการสร้างภาพ 2 มิติ จากโมเดล 3 มิติ (3D Rendering) เป็นการเพิ่มข้อมูลเข้าไปในภาพโดยใช้ค่าตำแหน่งเชิง 3 มิติ ที่คำนวณได้จนได้ภาพเสมือนจริง พื้นฐานหลักของ AR ง่ายๆ คือ ใช้หลักการการตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Detection) การเต้น หรือ การเคาะ (Beat Detection) การจดจำเสียง (Voice Recognize) และการประมวผลภาพ (Image Processing) นั่นเอง เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา AR ก็มีอยู่หลากหลายนะ เช่น Unity , Pixlive Maker เป็นต้น หาดูใน google ก็จะขึ้นเยอะแยะไปหมด เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย พอจะเข้าใจเทคโนโลยีเสมือนจริงเพิ่มมากขึ้นอีกสักนิดกันมั้ย ไม่ต้องรีบๆ ค่อยๆเรียนรู้ไปด้วยกันนะทุกคนน ——————————————————————————————————————– เอาไว้ใน Blog ถัดไป ผู้เขียนจะมาเล่าถึงวิธีการสร้างเจ้า AR ตัวนี้ละกันนะ ขอเวลาไปเขียน storyboard ก่อนแป๊บนึง …. Bye 🙂ปล … สร้างอะไม่ยากหรอก จะยากก็ตอนออกแบบ นั่งหารูป สร้างข้อความ

Read More »

เช็คฟอนต์สวย ด้วย WhatFont ~ Extension

อะ แฮ่ม และแล้วก็เดินมาถึง Blog สุดท้ายในรอบ TOR ของปีนี้จนได้ แต่กว่าจะได้ฤกษ์เขียนได้ก็ปาเข้าไปกลางปีกันเลยทีเดียว (55+) มาๆๆ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ต้องบอกว่าหลายครั้งที่เราได้เข้าเว็บไซต์นู้นนั่นนี่ แล้วเห็น font สวยๆ แต่ไม่รู้ว่านั่นน่ะมันคือ font อะไร ชนิดไหน … วันนี้ทางผู้เขียนขอนำเสนอ Chrome Extension (อีกแล้วเหรอ !) ที่เรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง นั่นคือ * WhatFont * WhatFont คืออะไร ??? WhatFont เป็นหนึ่งในส่วนขยายของ Google Chrome ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการดูได้ว่า Font ที่ใช้หรือแสดงอยู่ในหน้าเว็บไซต์ต่างๆ นั้น คือ Font ชนิดอะไร ขนาดเท่าไหร่ และมีค่าสี เป็นอะไร อ๊ะๆ ยังไม่หมดนะ มันสามารถระบุได้แม้กระทั่งความหนา ความบาง ของ Font นั้นๆ กันเลยทีเดียว เพียงแค่เรานำเมาส์ไปวางบนตัวอักษรที่เราต้องการจะดูรายละเอียดเท่านั้นเอง วิธีการติดตั้ง ดาวน์โหลดได้จาก Chrome เว็บสโตร์ คลิก จากนั้นให้คลิกปุ่ม “เพิ่มใน CHROME” หรือ Add to Chrome ระบบจะแสดง pop up ขึ้นมาให้คลิกเลือก “เพิ่มส่วนขยาย” เมื่อเราติดตั้งเรียบร้อยแล้ว หน้าจอก็จะแสดง pop up ขึ้นมาแจ้งให้เราทราบว่าได้ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว สำหรับวิธีการใช้งาน ให้เข้าเว็บที่เราต้องการ จากนั้นให้คลิกที่ Icon ที่มุมบนด้านขวาของ Browser ให้นำเมาส์ไปวางไว้บนข้อความ / ตัวอักษร ที่เราต้องการจะรู้ว่าเป็น font อะไร และหากต้องการจะดูรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ขนาด สี ความหนา ความบาง ก็ให้คลิกเลือกบนข้อความดังกล่าว จากนั้นจะมีส่วนแสดงข้อมูลเพิ่มเติมขึ้นมาให้เราได้ดูกัน เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ข้อมูลอันนี้นี่พอจะช่วยผู้อ่านได้บ้างมั้ย ?? ยังไงก็แล้วแต่ทางผู้เขียนอยากแนะนำให้ทุกคนไปลองใช้กันดูนะ ง่ายดี ฟรีด้วย แทนที่เรา จะมานั่งคาดเดา หรือมโน กันเองว่า เอ๊ ! ตัวนี้นี่มันเป็น font อะไรแล้วน๊าา แบบนั้นมันล้าสมัยไปแล้ว เสียเวลาเปล่าๆ ติดตั้งตัวนี้กันเลย ง่าย ครบ จบในตัวเดียว 55+ อย่าลืมลองเล่นกันดูนะ ไว้ปีหน้าฟ้าใหม่ เราจะมาเจอกันอีกใน Blog ถัดๆ ไปเน้ออออ ขอบคุณแหล่งอ้างอิง http://photoloose.com/what-font-chrome-extension/

Read More »

แปลงรูปภาพ ให้เป็นตัวอักษร

สำหรับ Blog ที่ 3 ในปีงบประมาณนี้ จะขอว่าด้วยเรื่องง่ายๆ ที่หลายๆ คนอาจไม่เคยรู้กันมาก่อน (มันง่ายจริงๆนะ ไม่ได้โม้ ) นั่นก็คือวิธีการแปลงรูปภาพ ให้กลายมาเป็นตัวอักษร หรือข้อความ มาเริ่มกันเลยดีกว่า ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ทางผู้เขียนค่อนข้างจะใช้ชีวิตในทุกๆ วันกับการทำงานเอกสาร จัดทำคู่มือนู้นนั่นนี่ ต่างๆมากมาย และบ่อยครั้ง ก็จำเป็นจะต้องมานั่งคัดลอก หรือพิมพ์ข้อความจากไฟล์ภาพต่างๆ ให้มาอยู่ในรูปแบบเอกสารที่สามารถนำมาแก้ไขหรือประมวลผลต่อได้ ซึ่งมันก็จะค่อนข้างเสียเวลาอยู่มิใช่น้อยในแต่ละครั้ง อ๊าาาา … พอพูดมาจนถึงตอนนี้ หลายๆคนก็อาจจะคิดว่าก็มีตั้งหลายวิธีที่จะแปลงไฟล์รูปภาพให้ไปเป็นข้อความไง ทำไมไม่ใช้ละ ใช่!! มันก็มีหลายๆ โปรแกรมจริงนั่นแหละที่จะสามารถ convert รูปภาพให้เป็นตัวอักษรได้ แต่ไม่อยากลงโปรแกรมให้ยุ่งยากไง ก็อยากแค่คลิกขวาแล้วแปลงได้เลยง่ะ มันจะมีมั้ย ?? ตอบเลยว่า *** มี *** นั่นก็คือการแปลงรูปภาพ ให้กลายเป็นตัวอักษร ผ่านทาง Google Docs บน Google Drive นั่นเอง และไม่ใช่แค่รองรับการแปลงเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษเท่านั้นนะ แต่ยังรองรับการแปลงเป็นภาษาไทยได้ด้วย และไม่ใช่ได้ธรรมดานะ ยังถูกต้อง 100% ไปอี๊กกกก โอย!! เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ ไม่บ่นมากละไปดูวิธีกันเลย let’s โกวววว Step 1. แนะนำให้เตรียมสแกนหรือถ่ายภาพข้อความที่ต้องการให้ชัด และ save เป็น .jpg หรือ .png ก็แล้วแต่ จากนั้นอัพโหลดขึ้น Google Drive ของเรา Step 2. เมื่ออัพโหลดเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการ คลิกขวาที่รูป —> เลือกเปิดด้วย —> เลือก Google เอกสาร ดังรูป Step 3. รอแป๊บนึง Google Docs ก็จะเปิดขึ้นมา โดยด้านบนสุดจะเป็นภาพปกติต้นแบบของเรา ส่วนด้านล่างของหน้าเอกสารก็จะเป็นตัวอักษรที่แปลงมาจากรูปภาพให้เราโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราก็จะสามารถ copy หรือนำข้อความที่แปลงมาได้นั้นไปใช้งานต่อได้เลย ง่ายเนอะ เทคโนโลยีสมัยนี้เนี่ย ทำให้ชีวิตเราง่ายและสะดวกสบายขึ้นมากจริงๆ อย่างไรก็แล้วแต่ ทางผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Blog สั้นๆ ในรอบนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยแหละนะ อยากให้ลองใช้งานกันดู เช่น ถ้าจะพิมพ์ข้อความสักหน้านึงในหนังสือเล่มนึง ก็หยิบมือถือขึ้นมา ถ่ายรูปหน้าที่ต้องการเลย จากนั้นอัพขึ้น Google Drive อัพเสร็จ คลิกขวาตามขั้นตอน บิงโกกกกกก ได้ข้อความมาละโดยไม่ต้องนั่งพิมพ์ หื้มมมม ประหยัดเวลาสุดๆ ไปลองกันดูเน้อทุกคน ….. สวัสดี ขอขอบคุณข้อมูลข่าวสารดีดี– https://www.it24hrs.com

Read More »

StayFocusd ~ Extension

สำหรับ Blog ที่2 ในรอบปีงบนี้ จะขอว่าด้วยเรื่อง Extension บน Chrome ที่เรียกว่า StayFocusd !! StayFocusd คืออะไร แล้วเจ้าตัวนี้เนี่ยมันทำอะไรได้บ้าง ? มา ไม่ต้องเกริ่นไปเกริ่นมามากมาย เรามาเริ่มทำความรู้จักกันเลยดีกว่า StayFocusd เป็น Extension อีกตัวนึงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเราด้วยการ “บังคับ” และ “จำกัด” เวลาที่ตัวเราเองใช้ไปกับเว็บไซต์ต่างๆ ที่ทำให้เราเสียเวลา เว็บที่หัวหน้าเรามองว่าไม่มีประโยชน์ (แต่มันมีประโยชน์ทางจิตใจกับเราไง หัวหน้าไม่เข้าใจหนูหรอกกกกกก T T) extension อันนี้เหมาะมาก สำหรับใครที่ติด Social Network เปิด youtube อัพเดทสถานะบน facebook ดูซีรีย์เกาหลีออนไลน์ ดูละครย้อนหลังผ่าน line tv เข้า shopee lazada บลาๆ จนถึงระดับที่ทำให้เสียการเสียงาน ลองมาใช้ StayFocusd กันดูเถอะ เบื้องต้นมันจะให้เรานำเว็บไซต์ที่เรามองละ ว่ามีแนวโน้มที่จะสูบเวลาของเราไปโดยเปล่าประโยชน์ ไปใส่ไว้ใน List แล้วก็ให้ตั้งเวลาในการที่เราจะไม่สามารถเข้าเว็บนั้นๆ ไม่ได้ชั่วคราว (ตามเวลาที่เราระบุไว้) เพื่อให้ ณ ห้วงเวลาดังกล่าว เราสามารถกลับมามีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานได้ 100% แทน *** ลองมาดูการติดตั้ง และใช้งานแบบคร่าวๆ กันเถอะ ขั้นตอนที่ 1. เข้า Chrome web store และค้นหาเลย StayFocusd หรือคลิกที่นี่ เพื่อติดตั้ง ขั้นตอนที่ 2. เมื่อ Add to Chrome เรียบร้อยแล้ว มุมซ้ายของ Browser ก็จะมีสัญลักษณ์กลมๆ สีฟ้าๆ แสดงขึ้นมา ตามรูปเลย ขั้นตอนที่ 3. เข้าไปตั้งค่าการใช้งาน โดยคลิกเลือก Settings ขั้นตอนที่ 4. ตั้งค่าการใช้งานตามต้องการ เช่น Active Days, Active Hours, Blocked Site, Option ว่าเราต้องการให้การตั้งค่าที่ระบุไว้ทำงานในวันไหน ช่วงเวลาใด และสิ้นสุดเมื่อไหร่ รวมถึง site ที่ต้องการ Block หรือแม้กระทั้งการ customize ข้อความที่จะแสดงเมื่อเราเข้าใช้ในช่วงเวลาที่เว็บดังกล่าวโดน Block เป็นต้น ขั้นตอนที่ 5. เมื่อเราทดลองกำหนดตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว และลองเข้าใช้งานดูก็จะพบกับหน้าจอประมาณนี้ สำหรับครั้งนี้ทางผู้เขียนก็ขอจบการแนะนำเพียงเท่านี้ หวังว่า Blog สั้นๆ อันนี้จะมีประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้อ่าน แต่ก็นะ ไม่ใช่ว่า block ผ่านคอมพิวเตอร์ แต่หยิบมือถือขึ้นมาเปิด app ช้อปปิ้งออนไลน์ เล่น facebook แทนนะ แบบนั้นมันก็ …….. เอาเป็นว่า ตั้งใจทำงานกันเถิดพี่น้องชาวไทยยยยย ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าเน้อ 🙂

Read More »

เปลี่ยน font หัว column ใน Excel ง่ายๆ

วันนี้ทางผู้เขียนขอเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ ด้วยบทความอันแสนสั้น และเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ซึ่งสามารถทำตามได้ง่ายๆ เกี่ยวกับเจ้าตัว Microsoft Excel นี่แหละ ปะ! … เรามาเริ่มเลยละกัน สำหรับคนที่ใช้ Excel กันอยู่แล้ว หลายๆ คนอาจจะเคยสงสัยเหมือนผู้เขียน ว่ารูปแบบตัวอักษร ที่อยู่บนหัวตารางเนี่ย เราสามารถเปลี่ยนมันได้มั้ย เปลี่ยนเป็นตามแบบที่เราชอบได้รึเปล่า ???   จริงๆ แล้วรูปแบบของหัวตาราง มันคือรูปแบบที่เรียกว่า Normal Style นั่นเอง ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ถ้าเราไปเปลี่ยนเจ้า Normal Style ตัวนี้ รูปแบบหัวตารางของเราก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย…จริงมั้ย   คำถามถัดมาละ … แล้วเราจะไปเปลี่ยนเจ้า Normal Style ตัวนี้ได้ยังไง ไปตรงไหน เลือกอะไร ??? วันนี้ขอเขียนขั้นตอนการเปลี่ยน Normal Style แบบง่ายๆ กลั้นหายใจไม่ถึง 10 วิ ก็เสร็จละ ปะ ลุยยย !   Step 1. ขาดไม่ได้เลยนะขั้นตอนนี้ …. เปิด Excel ก่อนเลย แหะๆ พอเปิดแล้วก็จะได้มาประมาณนี้ (สังเกตจากที่จากรูป แบบ Normal Style ตัวอักษรหน้าตาก็จะพื้นๆ เรียบๆ นิดหน่อย)                 Step 2. ให้คลิกขวา ตรงรูปแบบที่ชื่อว่า Normal จากนั้น ให้เลือก Modify… ตัวอย่างตามรูปที่ 2 เลยนะ                 Step 3. จะปรากฏหน้าต่างเล็กที่ชื่อว่า Style ขึ้นมา ให้เราคลิกเลือกปุ่ม Format… ไปได้เลย                 Step 4. หลังจากเลือก Format… แล้ว Excel ก็จะแสดงหน้าต่าง Format Cells ขึ้นมา ให้เราเลือกรูปแบบ ของ Font, Style, Size หรืออื่นๆ ตัวอย่างตามรูปด้านล่างเลยนะทุกคน เมื่อเราเลือกเรียบร้อยแล้วก็กด OK และ OK                   Step 5. เมื่อกด OK จนครบแล้วก็จะเห็นรูปแบบ Font ตัวอักษรตรงหัว Column เปลี่ยนไป ตัวอย่างตามรูปเลยจ๊ะ แท่น แท่น แท๊นนนนนนนน …. เย้ Font เปลี่ยนแล้ววววว !!                 เป็นยังไงกันบ้าง ง่ายมั้ย ง่ายเนอะ คลิกไปคลิกมา ปุบปับๆ ก็เสร็จละ ซึ่งเจ้าตัว Normal Style ตัวนี้ที่เราเปลี่ยน เมื่อไหร่ที่เราเปิดไฟล์ใหม่ Style เหล่านี้ก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเช่นเดิมน๊าาาาา สบายใจได้ สำหรับครั้งนี้ ผู้เขียนขอขอบคุณทุกคนที่เผลอคลิกเข้ามาอ่านนะ 55+ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะมีประโยชน์ให้กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย *************************************************************************************************************** แหล่งข้อมูลอ้างอิง –> http://www.inwexcel.com/10-excel-secrets/

Read More »