การเปลี่ยนชื่อ group mail ใน mailman

ในการใช้ mailman เพื่อการให้บริการ Mailing List หรือ Group Mail นั้น การเปลี่ยนชื่อกลุ่มนั้น ค่อนข้างยุ่งยาก แต่สามารถทำได้ง่ายกว่า โดยการสร้าง List ใหม่แล้ว เอา Config และ Member เดิมมาใส่ ขอยกตัวอย่าง กรณี จะเปลี่ยน group name ของกลุ่มคณะ วจก. ซึ่งเดิมจะขึ้นต้นด้วย mgt-* ให้ไปเป็น fms-* ก็จะใช้ Shell Script ตามนี้ oldname=”mgt” newname=”fms” owner=”admin.name@psx.ac.th” password=”xxxxxx” for line in $( /usr/lib/mailman/bin/list_lists | grep -i “$oldname-“|awk ‘{print $1}’) ; do /usr/lib/mailman/bin/config_list -o $line.txt $line /usr/lib/mailman/bin/list_members $line > $line-member.txt newgroupname=$newname-$(echo $line | sed -e “s/$oldname-\(.*\)*/\1/i”) sed -e “s/$oldname-/$newname-/i” $line.txt > $newgroupname.txt /usr/lib/mailman/bin/newlist $newgroupname $owner $password /usr/lib/mailman/bin/config_list -i $newgroupname.txt $newgroupname /usr/lib/mailman/bin/add_members -w n -a n -r $line-member.txt $newgroupname done 1. เมื่อต้องการทราบว่า ในระบบของ mailman มี List ใดบ้างที่ชื่อขึ้นต้นด้วย “mgt-” บ้าง ใช้คำสั่ง /usr/lib/mailman/bin/list_lists | grep -i “mgt-” 2. ซึ่งจะพบว่ามีหลายกลุ่ม ที่มีชื่อขึ้นต้นด้วย “mgt-“, ก็สามารถใช้ Shell Script เพื่อ เอาผลลัพธ์ จากคำสั่งดังกล่าว มาทำงานร่วมกับคำสั่ง ต่อไปนี้ เพื่อเก็บ Config ของกลุ่มนั้นๆ ออกมาเป็นไฟล์ (สมมุติว่า ชื่อกลุ่มคือ mgt-xxx ก็นำออกมาเป็นไฟล์ชื่อ mtg-xxx.txt) /usr/lib/mailman/bin/config_list -o mgt-xxxx.txt mgt-xxx 3.ต่อไป วิธีการดูว่า แต่ละกลุ่ม มีใครเป็นสมาชิกบ้าง แล้วนำออกมาเป็นไฟล์ (สมมุติว่า ชื่อกลุ่มคือ mgt-xxx ก็นำออกมาเป็นไฟล์ชื่อ mtg-xxx-member.txt) /usr/lib/mailman/bin/list_members mgt-xxx > mgt-xxx-member.txt จะได้ไฟล์ชื่อเดียวกับชื่อกลุ่ม แต่จะลงท้ายด้วยคำว่า -member.txt 4, ในการเปลี่ยนชื่อกลุ่ม จะเปลี่ยนจาก mgt-xxxx มาเป็น fms-xxxx วิธีการที่จะได้คำว่า xxxx ที่ต่อท้าย mgt-xxxx นั้น ใช้คำสั่งต่อไปนี้ echo “mgt-xxxx” | sed -e “s/mgt-\(.*\)*/\1/i” คำสั่ง sed นั้นมี option “-e” คือการสั่งให้ execute คำสั่งที่ตามมา ส่วน  “s/mgt-\(.*\)*/\1/i” นั้น จะมีโครงสร้างคือ s/pattern/replace/i s : หมายถึง substitute คือ แทนที pattern: ที่เขียนว่า mgt-\(.*\)* หมายความว่า เมื่อเจอรูปแบบ mgt-xxxx ก็จะเอา xxxx มาเก็บไว้ในตัวแปร replace: ที่เขียนว่า \1 ก็คือเอาค่าจากตัวแปรใน pattern \(.*\) นั่นก็คือ xxxx i: ตัวสุดท้ายหมายถึง Case-Insensitive

Read More »

How Cyrus Murder (Mail Clustering) work?

ต่อจาก Mail Clustering with Cyrus Murder เมื่อ Backend ทำการ Restart หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ Mailbox เครื่อง backend01 และ backend02 ทำการรายงาน mailbox ทั้งหมดในเครื่องของตนเอง ให้ mupdate ทราบ จากนั้น mupdate ก็จะทราบว่า ทั้ง Cluster มี mailbox อะไรและอยู่ที่ใด โดยเครื่อง backend01 และ backend02 จะ Login ด้วย User ที่สร้างไว้ใน mupdate ก่อน จากนั้นจึงสามารถทำการ Synchronize ข้อมูล mailbox ไปยัง mupdate ได้ เมื่อ Mail client ติดต่อใช้บริการ IMAP/POP มายัง Frontend Server   1. เมื่อ Mail Client ซึ่งสมมุติว่า ตั้งค่า Incoming Server เป็น frontend.yourdomain.com ซึ่งเป็นแบบ DNS Round Robin ก็ตอบ IP Address ของเครื่อง frontend server ใน cluster เช่นตอบ IP Address ของ frontend01.yourdomain.com เป็นต้น 2. เมื่อ frontend01.yourdomain.com รับการเชื่อมต่อจาก Mail Client และทำหน้าที่เป็น IMAP Proxy, สมมุติ Mail Client ต้องการติดต่อ Mailbox ของ User/yingyong.f, เครื่อง frontend01 ก็จะสอบถามไปยัง mupdate ว่า user/yingyong.f อยู่ที่เครื่องใด, ซึ่ง mupdate ก็ดูในฐานข้อมูลตนเอง และตอบว่าอยู่ที่ backend02 3. จากนั้น frontend01 ก็จะติดต่อกับ backend02 จากนั้น เมื่อผู้ใช้ส่งคำสั่งต่างๆมาจาก Mail Client ก็จะทำผ่าน frontend01 ซึ่งจะไปสอบถาม backend02 ต่อไป จนกระทั่ง ปิดการเชื่อมต่อ เมื่อ Mail Client ส่ง email ถึง Domain   1. Mail Client ส่ง email ถึง somsri.b@yourdomain.com, ระบบ DNS จะหาว่า yourdomain.com อยู่ที่ไหน ก็จะพบว่า MX Record ของ yourdomain.com อยู่ที่ frontend.yourdomain.com จากนั้น DNS ก็จะใช้ Round Robin ตอบ IP Address ของหนึ่งใน Frontend มา สมมุติว่าตอบของ frontend02 มา 2. เครื่อง frontend02 ก็จะไปถาม mupdate ว่า somsri.b อยู่ที่เครื่องใด, mupdate ตอบว่า อยู่ที่ backend01 3. เครื่อง frontend02 ก็จะส่ง email ต่อไปให้ เครื่อง backend01 เพื่อเขียนลง Mailbox ของ somsri.b ต่อไป  

Read More »

การใช้งาน error_log() ของ PHP ในการบันทึกค่าต่างๆ

ในการเฝ้าระวังระบบที่เป็น PHP Web Application บางครั้งก็ต้องการเก็บค่าบางอย่างลง Log file ทำไงดี ? อาจจะใช้วิธี สร้างไฟล์ไว้ในพื้นที่ ที่ web user สามารถเขียนได้ แล้วก็จัดการเอง ด้วย function พวก fopen(), fwrite(), fclose(); เช่น $fp = fopen(‘/var/log/mylog.txt’, ‘a’); fwrite($fp, ‘20121207:some text’); fclose($fp); เป็นต้น ซึ่ง ก็พอจะทำได้ แต่ต้องคำนึงถึงเรื่อง permission ในการเขียน และพวกสิทธิต่างๆ ใน PHP เราสามารถบันทึกสิ่งต่างๆลงไปในไฟล์ System Log ได้เลย โดยใช้ฟังก์ชั่น error_log นอกจากนั้น ยังสามารถเลือกให้เป็นการส่ง email แทนการเขียน log ลงไฟล์ก็ได้ หรือ จะเลือกเขียนลงไฟล์อื่นที่แยกไปจาก System Log ก็ได้ การใช้งาน error_log(message, message_type, destination, options) message: เป็นข้อความที่ต้องการบันทึก message_type: ใช้ค่า 0,1,3,4 ซึ่งมีความหมายดังนี้ 0: เป็นค่า Default ซึ่งเขียนลงไปใน System Log (ตามที่ระบุในค่า error_log ของ PHP ในไฟล์ php.ini) 1: เลือกให้ส่ง message ในรูปแบบ email ไปยัง destination โดยใช้ Header ของ email ตาม options 3: เลือกให้เขียน message ลงในไฟล์ที่กำหนดใน destination (ไม่ใช่ system log) โดยจะต้องเขียน newline ต่อท้ายบรรทัดเอง 4:  เลือกให้เขียนลงไปใน SAPI (จากการทดสอบบน apache บน Ubuntu พบว่า เขียนลงที่เดียวกับ System Log) destination: หาก message_type=1 ให้ระบบ email address ที่ต้องการส่งถึง, หาก message_type=3 ให้ระบุตำแหน่งของไฟล์ที่ต้องการเขียน options: ในกรณี message_type=1 สามารถระบุ header ของ email ได้ ลองเขียน PHP ตามนี้ ลงในไฟล์ test-error_log.php <?php #ini_set(‘error_log’,’/var/log/myother.log’); echo ‘error_log = ‘ . ini_get(‘error_log’) . “\n”; error_log(“This is error_log #0”, 0); error_log(“This is error_log #1”, 1, “username.s@yourdomain.com”, “Subject: Message Type #1\n”); error_log(“This is error_log #3”, 3, “/var/log/mytest.log”); error_log(“This is error_log #4”, 4); ?> แล้วใช้คำสั่ง php  test-error_log.php ผลที่ออกมานั้น ถ้า 1. ใน php.ini ไม่ได้ระบุว่า error_log เขียนไปที่ไหน (error_log=) ก็จะแสดงผลออกมาทาง stderr error_log = This is error_log #0 This is error_log #4 จะมี email ส่งถึงตัวเรา มี Subject

Read More »

Mail Clustering with Cyrus Murder

ปัจจุบันมีการใช้งาน e-mail มากขึ้น และมีการเก็บข้อมูลต่างๆใน email ไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้ Mail Server ของหน่วยงานเดิม อาจจะมีเนื้อที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ทำให้ต้องมีการขยายพื้นที่ Mail Server ให้มากขึ้น วิธีการที่นิยมใช้กันคือ ซื้อระบบใหม่ที่มี Harddisk ใหญ่ขึ้น หรือ ต่อกับระบบ Storage ที่ใหญ่ขึ้น (เช่น SAN หรือ Storage Cluster) วิธีการนี้ เรียกว่า Scale-Up ซึ่งเมื่อมีการใช้งานต่อไป แล้วข้อมูลจัดเก็บมากขึ้น ก็ต้องวางแผนในการซื้อระบบที่ใหญ่ขึ้นไปอีก ข้อดี: 1. เป็นวิธีการที่นิยมทำกัน 2.ได้ระบบใหม่ที่มีศักยภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ ข้อเสีย: 1. เมื่อจะย้ายระบบใหม่ จะเกิด Downtime เพราะต้องหยุดการทำงานของระบบเดิมทั้งระบบ 2.  ในการย้ายข้อมูล email ซึ่งมีปริมาณมาก ต้องใช้เวลานาน และเสี่ยงต่อข้อมูลที่ไม่เป็นปัจจุบันที่สุดด้วย (ล่าสุดที่ทำการย้ายข้อมูลขนาด 300 GB ซึ่งลักษณะ email ที่ใช้เก็บข้อมูลเป็นไฟล์เล็กๆจำนวนมาก ต้องใช้เวลาถึง 18 ชั่วโมง) 3. และที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ระบบแบบเดิมนี้ เป็น “Single Point of Failure” กล่าวคือ  ถ้าระบบเสียหาย ก็จะกระทบกับผู้ใช้ทั้งหมด   แต่มีอีกแนวทางหนึ่ง เรียกว่าการ Scale-Out คือ การใช้ระบบที่เป็น Mail Cluster แทน เมื่อมีความต้องการขยายพื้นที่ ก็เพียงแต่ซื้อเครื่องใหม่ แล้วเพิ่มเข้าสู่ระบบ Cluster แล้วเริ่มต้นใช้งานต่อเนื่องได้ แนวทาง Scale-Out ทำให้สามารถขยายพื้นที่จัดเก็บได้เรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ข้อดี: 1.ลดปัญหา Single Point of Failure โดยการกระจายที่จัดเก็บไปใน Server ต่างๆใน Cluster เมื่อเกิดความเสียหากับเครื่องใดเครื่องหนึ่ง ก็จะไม่กระทบกับผู้ใช้ทั้งหมด 2. เมื่อต้องการพื้นที่จัดเก็บเพิ่ม ไม่ต้องหยุดการทำงานทั้งระบบ เพียงเพิ่มเครื่องใหม่เข้าใน Cluster แล้วปรับแต่งค่าเพียงเล็กน้อย ก็สามารถใช้งานได้เลย ข้อเสีย: 1. ระบบมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น มีระบบต้องเฝ้าระวังมากขึ้น ในระบบ PSU E-Mail Service ใช้โอเพนซอร์สซอฟต์แวร์ในการบริการ Email คือ cyrus-imapd ซึ่งสามารถสร้างระบบ Mail Cluster ด้วยการติดตั้งแพคเกจที่ชื่อว่า cyrus-murder ได้ Cyrus Murder ประกอบไปด้วย Server 3 ประเภท 1. Backend Servers: ทำหน้าที่เก็บ Mailbox ของผู้ใช้, โดยแต่ละเครื่องจะรายงานรายละเอียดของ Mailbox ที่อยู่บนเครื่องตนเอง ให้ MUPDATE Server ทราบ 2. Frontend Servers: ทำหน้าที่บริการ IMAP/POP ให้กับ Mail Client และ บริการ SMTP เพื่อส่งถึง Mailbox ที่อยู่บน Backend Servers ที่ถูกต้อง โดยอาศัยบริการของ MUPDATE Server เพื่อให้ทราบว่า Mailbox ที่ต้องการติดต่อด้วย อยู่บน Backend Server เครื่องใด 3. MUPDATE Servers: ทำหน้าที่เป็นฐานข้อมูลกลางของ Mailbox ทั้งหมดใน Backend Cluster โดยรับรายงานจาก Backend Servers และบริการตอบ Fronend Servers ว่า Mailbox ที่ต้องการติดต่อด้วย อยู่บน Backend Server เครื่องใด อ่านต่อ: – ระบบ Cyrus Murder ทำงานอย่างไร – วิธีการติดตั้ง

Read More »